SEC อนุมัติซื้อขายออปชัน Ethereum(ETH) ETF หนุนตลาดคริปโตสหรัฐฯ คึกคัก

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการให้มีการซื้อขายสิทธิซื้อขายล่วงหน้า (ออปชัน) สำหรับกองทุน ETF ที่อ้างอิงกับราคาอีเธอเรียม(ETH) แบบตลาดจริงแล้ว เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ซึ่งรวมถึงกองทุน iShares Ethereum Trust ของแบล็คร็อกที่ยื่นโดยตลาดแนสแด็ก ISE, กองทุน Ethereum ETF ของ Bitwise ที่ยื่นโดยตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กประเภทอเมริกัน (NYSE American), และอีกสองโครงการจากเกรย์สเกล ได้แก่ Ethereum Trust และ Mini Trust ก็ได้รับการอนุญาตให้ซื้อขายออปชันได้เช่นเดียวกัน

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้กระบวนการ ‘อนุมัติแบบเร่งด่วน’ (Accelerated Approval) ของ SEC ซึ่งถือเป็นการสรุปขั้นตอนที่เริ่มมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ อนุมัติ Ethereum ETF แบบตลาดจริงอย่างเป็นทางการ โดยในช่วงนั้น ผู้ออก ETF รายใหญ่อย่างแบล็คร็อก ได้ยื่นคำขออย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้มีการอนุญาตเครื่องมือการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนสถาบัน

เจมส์ เซย์เฟิร์ต(James Seyffart) นักวิเคราะห์ด้าน ETF จาก Bloomberg ให้ความเห็นว่า “การอนุมัติในครั้งนี้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยถือเป็นการตอบสนองต่อกำหนดเวลาในการพิจารณาอนุมัติการซื้อขายออปชัน ซึ่งถึงกำหนดในวันนี้”

นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่าการเปิดทางให้ซื้อขาย *อีเธอเรียม ETF ออปชัน* ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะสามารถใช้วางกลยุทธ์เฮดจ์ความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเปิดโอกาสในการทำกำไรที่หลากหลาย โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง ทั้งยังอาจช่วยเสริมสภาพคล่องและเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตภาพรวมอีกด้วย

การอนุมัติครั้งนี้ถือเป็น ‘ก้าวต่อเนื่อง’ จากที่ SEC ได้อนุมัติให้มีการซื้อขาย *บิตคอยน์(BTC) ETF ออปชัน* ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 การเปิดทางให้ทั้งบิตคอยน์และอีเธอเรียมถูกนำเข้าไปซื้อขายในรูปแบบเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับการกำกับดูแลในสหรัฐฯ ช่วยเพิ่มความหลากหลายในช่องทางการลงทุน และสะท้อนถึงกระแสการผลักดันนโยบาย ‘เป็นมิตรกับคริปโต’ ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เดินหน้าผลักดันคริปโตเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกระแสหลักอย่างรวดเร็ว ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงอาจเป็นอีกแรงหนุนให้สินทรัพย์ดิจิทัลก้าวสู่สถานะการเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตลาดทุนสหรัฐฯ อย่างเต็มตัวในเร็ววัน