ราคาของอีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงประมาณ *65%* ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าทิศทางราคาจะยังคงเป็นขาลงต่อไป แม้บางฝ่ายชี้ว่ามีโอกาสเกิด *รีบาวด์ทางเทคนิค* แต่หลายเทคนิคอินดิเคเตอร์เริ่มส่งสัญญาณว่าเข้าสู่ภาวะ *ขายมากเกินไป* ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มถกเถียงว่า *ราคานี้คือจุดต่ำสุดหรือยัง*
เหตุผลที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเชื่อว่าราคายังอาจลงต่อ เป็นเพราะโครงสร้างกราฟของ ETH ในตอนนี้ *คล้ายกับช่วงขาลงหนักในปี 2018 และ 2022* โดยรูปแบบราคาทำจุดสูงสุดใหม่ในขณะที่ค่าดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (RSI) กลับทำจุดต่ำลง หรือที่เรียกว่า *bearish divergence* ซึ่งตามมาด้วยการร่วงหนัก
ตัวอย่างล่าสุดคือเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ETH ขึ้นไปแตะระดับประมาณ *4,095 ดอลลาร์* แต่ RSI กลับไม่สามารถขึ้นไปแตะระดับก่อนหน้าได้ ความแตกต่างนี้ สะท้อนถึงแรงเหวี่ยงที่ลดลงของตลาด ซึ่งเป็นสัญญาณที่เคยเกิดขึ้นก่อนจะร่วงแรงในรอบที่แล้ว
ขณะนี้ ราคาของ ETH หลุดจากแนวรับสำคัญที่ระดับ *1.0 Fibonacci Retracement* หรือราว *1,550 ดอลลาร์* และดัชนี RSI รายสัปดาห์แม้ยังไม่หลุดระดับ *30* แต่ก็ยังคงอยู่ในโซนที่มีความเสี่ยงที่จะ *ลดลงต่อ*
มีการมองว่า ETH อาจกำลังเคลื่อนไหวเข้าสู่ช่วง *final leg* ของคลื่นพักฐาน โดยแนวรับถัดไปอยู่ในช่วงแนว Fibonacci 0.618 - 0.786 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ *990 - 1,240 ดอลลาร์*
ด้านข้อมูล *ออนเชน* ก็เริ่มสะท้อนภาวะตลาดหมีเช่นกัน โดยดัชนี *Net Unrealized Profit/Loss (NUPL)* หรือกำไรขาดทุนยังไม่รับรู้ ได้เข้าสู่โซน “*การเทขาย (Capitulation)*” อีกครั้ง ซึ่งมักหมายถึงผู้ถือส่วนใหญ่เริ่มเข้าเขตขาดทุน
ตัวอย่างในอดีตรวมถึงช่วงเดือนมีนาคม 2020 หลัง COVID-19 ทำตลาดตื่นตระหนก และเดือนมิถุนายน 2022 ที่ ETH เคยลงไปแตะ *880 ดอลลาร์* เป็นจุดต่ำสุด ทั้งสองกรณีนี้ ETH ฟื้นตัวได้หลังจาก NUPL เข้าสู่โซนเดียวกัน
*ความคิดเห็น:* หาก ETH ยังคงสะท้อนรูปแบบเดิม การร่วงครั้งนี้ก็อาจเป็นการเข้าสู่จุดสิ้นสุดของรอบขาลงในระยะกลางถึงยาว แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยทั้งเทคนิคและออนเชนชี้ไปในทิศทางที่ยังไม่แข็งแรง จึงควรระวัง *ความผันผวนในระยะสั้น* ที่อาจเพิ่มขึ้นได้อีก
ความคิดเห็น 0