ราคาของอีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงอย่างรุนแรงอีกครั้ง โดยมีการทะลุระดับแนวรับที่ 1,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.33 ล้านบาท) ลงมา ท่ามกลางกระแสความอ่อนแอในตลาดคริปโตโดยรวม การปรับตัวลดลงในระยะสั้นของ ETH ได้สร้างความวิตกให้กับนักลงทุนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศใช้นโยบายภาษีศุลกากรเชิงรุก ซึ่งทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกเกิดความปั่นป่วน และตลาดคริปโตก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวได้
ในขณะนี้อีเธอเรียมเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1,520–1,540 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.22–2.25 ล้านบาท) ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญที่เคยทำหน้าที่ป้องกันราคาทั้งในครึ่งแรกและครึ่งหลังของปี 2023 หากแนวรับนี้ถูกเจาะลงไปอีก เป้าหมายการลดลงถัดไปอาจอยู่ที่ระดับ 1,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.04 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นระดับเทคนิคที่มีนัยสำคัญ
การร่วงลงในรอบนี้ไม่ได้เป็นแค่การปรับฐานเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากปัจจัยหลายด้านร่วมกัน ตั้งแต่การหลุดระดับแนวต้านหลัก ไปจนถึงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะหลังจากที่ราคาทะลุแนวรับฟีโบนักชีที่บริเวณ 1,870–1,880 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.73–2.74 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวจุดชนวนให้แรงขายในกลุ่มอัลต์คอยน์เพิ่มสูงขึ้น
ความรู้สึกของตลาดก็พลิกกลับไปในเชิงลบอย่างรวดเร็ว โดยแม้แต่ผู้ถือครองรายใหญ่ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความเสียหายไปได้ ข้อมูลจาก Lookonchain บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน เปิดเผยว่า วาฬ ETH รายหนึ่งถูกบังคับชำระบัญชีในตำแหน่งที่ใช้ ETH จำนวน 67,570 เหรียญ เป็นหลักประกันบนแพลตฟอร์ม Maker ส่งผลให้เกิดความสูญเสียราว 106 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,547 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเทรดเดอร์อีกรายหนึ่งได้เทขาย ETH จำนวน 14,014 เหรียญในวันเดียวกัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 22 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 321 ล้านบาท) เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึก ‘กลัว’ ที่แผ่กระจายไปในตลาดในระดับวงกว้าง แม้ว่า RSI (ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์) จะเข้าสู่เขต Oversold แล้วก็ตาม แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า การรีบาวด์ในระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้น จะเป็นเพียงแค่การฟื้นตัวทางเทคนิค ไม่ใช่การกลับทิศทางของตลาดอย่างแท้จริง
การเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตในปัจจุบันชัดเจนว่า มีความเชื่อมโยงกับปัจจัยมหภาคมากขึ้น ทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์ อัตราดอกเบี้ย และนโยบายการค้า ซึ่งไม่ต่างจากตลาดการเงินแบบดั้งเดิม การแถลงการณ์ของทรัมป์ที่ก่อให้เกิดแรงเทขายพร้อมกันทั่วโลก ยิ่งเน้นย้ำว่า มาตรการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในลำดับต่อไป จะมีผลอย่างยิ่งต่อทิศทางราคาของ ETH ในระยะอันใกล้นี้
ความคิดเห็น 0