โอเพนซี(OpenSea) จี้ SEC อย่าจัดตลาด NFT เป็นตลาดหลักทรัพย์ ชี้เสี่ยงกระทบอุตสาหกรรม

โอเพนซี(OpenSea) แพลตฟอร์มตลาดซื้อขาย NFT ชั้นนำของสหรัฐฯ ได้ยื่นหนังสือแสดงความคิดเห็นต่อหน่วยงานเฉพาะกิจด้านคริปโตของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า ตลาด NFT *ไม่ควรถูกจัดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในสถานะ “ตลาดหลักทรัพย์”* ตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง พร้อมเรียกร้องให้ SEC ออกเกณฑ์กำกับดูแลที่ชัดเจนกว่าเดิม ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ *ความคลุมเครือของแนวทางปัจจุบัน*

ในหนังสือที่ส่งถึง เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Heester Peirce) กรรมาธิการของ SEC โอเพนซีเน้นว่า NFT ควรถูกมองว่าเป็น *สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการสะสม* หรือ *ผลงานศิลปะ* ที่เน้นการบริโภคมากกว่าการลงทุน กล่าวคือ NFT ถูกซื้อขายจากมุมมองด้านความสุนทรีย์หรือการใช้งาน ไม่ใช่เพื่อผลตอบแทนทางการเงินเป็นหลัก จุดยืนนี้จึงสวนทางกับความพยายามของ SEC ที่จะใช้เกณฑ์ด้านหลักทรัพย์มายึดโยงกับตลาด NFT

โอเพนซียังระบุเพิ่มเติมว่า แพลตฟอร์มของตนไม่มีการรวบรวมคำสั่งซื้อหรือทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขาย เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างตลาดหุ้นนิวยอร์ก(NYSE) หรือแนสแด็ก(NASDAQ) โดยการทำธุรกรรมจะเกิดขึ้นผ่านสมาร์ตคอนแทรกต์แบบอัตโนมัติ ความแตกต่างนี้ถือเป็น ‘ประเด็นสำคัญ’ ที่ทำให้การจัดให้ NFT มาร์เก็ตเพลสเป็นตลาดหลักทรัพย์ไม่มีมูลความชอบธรรมตามหลักกฎหมาย

อีกประเด็นที่ถูกหยิบยกคือ NFT มาร์เก็ตเพลสในสหรัฐฯ ไม่ได้ให้บริการด้านการดูแลทรัพย์สินลูกค้า การจัดการบัญชี หรือการเป็นนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ดังนั้น การบังคับใช้ข้อกำหนดด้านการยืนยันตัวตน(KYC), การป้องกันการฟอกเงิน(AML) หรือข้อจำกัดด้านเงินทุนสำรองกับตลาด NFT อาจส่งผลให้เกิด *แรงกระเพื่อมเชิงลบต่ออุตสาหกรรม* มากกว่าการคุ้มครองผู้บริโภค

การยื่นหนังสือความคิดเห็นในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากการแต่งตั้งผู้นำชุดใหม่ของ SEC ภายใต้การขึ้นดำรงตำแหน่งของทรัมป์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการถอยห่างจากแนวนโยบายเดิมที่มองว่า NFT บางรายการอาจเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ โดยเฉพาะกรณีของโอเพนซีที่เคยถูกพิจารณาว่า *อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์*

ความคิดเห็นในวงการ NFT มองว่า การเคลื่อนไหวของโอเพนซีครั้งนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนต่อแนวทางการกำกับดูแลของ SEC โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีล่าสุดของหน่วยงานที่ออกมาระบุว่า *มีสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภท เช่น มีมคอยน์และสเตเบิลคอยน์ ที่ไม่ถูกจัดให้เป็นหลักทรัพย์* ซึ่งอาจเปิดทางให้ NFT ได้รับ ‘สถานะทางกฎหมาย’ ในแนวเดียวกัน

โอเพนซีย้ำว่าหากสหรัฐฯ ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันระดับโลกในด้าน NFT และ Web3 จำเป็นต้องมี *สภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่ชัดเจนและเป็นมิตรต่อการเติบโตของเทคโนโลยี* แทนที่จะเป็นแบบที่บุคลากรในอุตสาหกรรมเปรียบเปรยว่า “มืดมนและขาดวิสัยทัศน์”