อีเธอเรียม(ETH) เผชิญแรงขายชอร์ตพุ่ง 500% อาจเกิด 'ชอร์ตสควีซ' เร็ว ๆ นี้

อีเธอเรียม(ETH) กำลังเผชิญแรงกดดันขาลงอย่างหนักจากการขายชอร์ตของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ แม้ว่าตลาดคริปโตโดยรวมจะอยู่ในแนวโน้มฟื้นตัว แต่อีเธอเรียมกลับแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ

เมื่อวันที่ 10 ตามรายงานของ The Kobeissi Letter ตำแหน่งชอร์ตของอีเธอเรียมเพิ่มขึ้นถึง 500% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล เพียงแค่สัปดาห์เดียว จำนวนการชอร์ตก็เพิ่มขึ้นอีก 40% แสดงให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันยังคงคาดการณ์ว่าอีเธอเรียมจะอ่อนตัวลงในระยะสั้น

ปริมาณการขายชอร์ตที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้จำนวนสัญญาฟิวเจอร์ส ETH บนตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก(CME) แตะระดับ 11,341 สัญญา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ราคาอีเธอเรียมร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 2,500 ดอลลาร์ ลดลง 2% ภายใน 24 ชั่วโมง และต่ำกว่าจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2021 กว่า 45%

ท่ามกลางกระแสขายชอร์ตที่รุนแรง ความเป็นไปได้ของ ‘ชอร์ตสควีซ’ (Short Squeeze) ก็เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่ผู้ขายชอร์ตต้องปิดสถานะโดยการซื้อคืนสินทรัพย์จำนวนมาก ทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่าอีเธอเรียมอาจเข้าสู่ภาวะนี้ในเร็ว ๆ นี้

ที่น่าสนใจคือ ในขณะที่บิตคอยน์(BTC) พุ่งขึ้นกว่า 100% ในปี 2024 อีเธอเรียมกลับเพิ่มขึ้นเพียง 3.5% เท่านั้น ปัจจุบันมูลค่าตลาดของบิตคอยน์สูงกว่าอีเธอเรียมถึง 6 เท่า ซึ่งเป็นช่องว่างที่กว้างที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่าการขาดโมเมนตัมเชิงบวกที่ชัดเจนและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงกลายเป็นปัจจัยฉุดรั้งอีเธอเรียม

อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มเชิงลบจะมีอยู่ แต่เงินทุนจากนักลงทุนสถาบันยังคงไหลเข้าสู่อีเธอเรียมอย่างต่อเนื่อง ในเดือนธันวาคม 2024 เพียงเดือนเดียว มีเม็ดเงินลงทุนจากสถาบันไหลเข้าสู่อีเธอเรียมถึง 2 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.9 ล้านล้านวอน โดยในหนึ่งสัปดาห์มีเงินไหลเข้า 854 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.24 ล้านล้านวอน แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองว่ากำลังซื้อเพียงเท่านี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแนวโน้มตลาดได้

บางฝ่ายให้ความเห็นว่าปัญหาค่าธรรมเนียมก๊าซ(Gas Fee) ที่สูงของเครือข่ายอีเธอเรียมเป็นอุปสรรคสำคัญที่ลดทอนความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะเมื่อโปรเจกต์ที่ใช้โซลูชันเลเยอร์ 2 (Layer 2) เริ่มมีปริมาณธุรกรรมลดลง แนวคิดเรื่องเศรษฐกิจโทเคนรูปแบบใหม่จึงถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหานี้

นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมมองว่า ตราบใดที่แรงขายชอร์ตในอีเธอเรียมยังคงสูงอยู่ ความผันผวนในระยะสั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ว่า ‘ชอร์ตสควีซ’ อาจช่วยให้ราคาพุ่งขึ้นได้ แต่หากอีเธอเรียมไม่สามารถสร้างปัจจัยขับเคลื่อนระยะยาวที่แข็งแกร่ง ช่องว่างระหว่างอีเธอเรียมและบิตคอยน์ก็อาจขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก