กระดานเทรดคริปโตชื่อดังจากสหรัฐฯ อย่าง *คราเคน(Kraken)* เตรียมขยายบริการสู่โลกการเงินแบบดั้งเดิม ด้วยการเปิดให้เทรด ‘หุ้น’ และ ‘กองทุน ETF’ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม รายงานเมื่อวันที่ 14 ระบุว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของแพลตฟอร์ม ที่ต้องการรวม ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ และ ‘สินทรัพย์แบบดั้งเดิม’ ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการความสะดวกสบายในการเข้าถึงการลงทุนทุกประเภท
ตามรายงาน คราเคนได้เพิ่มหุ้นและกองทุน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เข้ามากกว่า 11,000 รายการ พร้อมเปิดให้บริการแล้วเฉพาะใน 10 มลรัฐและเขตพิเศษ ได้แก่ นิวเจอร์ซีย์, คอนเนตทิคัต, ไวโอมิง, โอคลาโฮมา, ไอดาโฮ, ไอโอวา, โรดไอแลนด์, เคนทักกี, แอละแบมา และ วอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีแผนจะขยายเพิ่มเติมไปยังรัฐอื่น ๆ เร็ว ๆ นี้
อาร์จุน เซธี(Arjun Sethi) ซีอีโอร่วมของคราเคน ให้ *ความคิดเห็น* ว่า โลกของ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ กำลังก้าวไปไกลกว่าการเป็นแค่เทคโนโลยีใหม่ และจะกลายเป็นโครงสร้างหลัก(backbone) ของระบบการเทรดสินทรัพย์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือสกุลเงิน พร้อมเน้นว่า ผู้ใช้ยุคใหม่ต้องการแพลตฟอร์มที่สามารถเทรดทุกอย่างได้ตลอด 24/7 ดังนั้น บริการใหม่นี้จึงเป็น “ขั้นตอนตามธรรมชาติ” ที่จะมุ่งสู่เศรษฐกิจไร้พรมแดนและการ “สร้างสภาพแวดล้อมที่สินทรัพย์จริงสามารถถูกแปลงเป็นโทเคน(tokenized)” ได้อย่างเต็มรูปแบบ
การประกาศขยายบริการของคราเคนเกิดขึ้นในช่วงจังหวะที่ตลาดคริปโตและการเงินโลกต้องเผชิญความผันผวนจากนโยบายของ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ ที่เมื่อต้นเดือนมีการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าหลายรายการ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดภาวะ ‘สงครามการค้า’ ครั้งใหม่ ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ หายไปกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,300 ล้านล้านวอน) ภายในสองวัน มากกว่าการร่วงหนักช่วงเริ่มโควิดในเดือนมีนาคม 2020 เสียอีก
*คำ* รายงานเพิ่มเติมว่า คราเคนยังมีแผนต่อยอดบริการซื้อขายหุ้นไปยังตลาดหลักในต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ยุโรป และออสเตรเลียอีกด้วย การขยับตัวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า เทคโนโลยี *บล็อกเชน* และ *สกุลเงินดิจิทัล* กำลังเคลื่อนเข้าสู่โครงสร้างหลักของตลาดการเงินแบบดั้งเดิมอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น 0