Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

คราเคน(Kraken) รุกหนัก! เตรียม IPO ปี 2026 ท้าชนคอยน์เบส(COIN) พร้อมซื้อกิจการ 1.5 พันล้านดอลลาร์

Sun, 30 Mar 2025, 23:10 pm UTC

คราเคน(Kraken) รุกหนัก! เตรียม IPO ปี 2026 ท้าชนคอยน์เบส(COIN) พร้อมซื้อกิจการ 1.5 พันล้านดอลลาร์ / Tokenpost

คราเคน(Kraken) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชื่อดังของสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าท้าทายบัลลังก์ของคอยน์เบส(COIN) อย่างจริงจังในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยมีการขยายกิจการอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการเตรียมเข้าตลาดหุ้น การเข้าซื้อกิจการรายใหญ่ ไปจนถึงการลดยอดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างช่วยเพิ่มตำแหน่งทางตลาดและสั่นคลอนการผูกขาดของคอยน์เบสได้อย่างชัดเจน

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) Bloomberg รายงานว่า คราเคนกำลังวางแผนเตรียมเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026 โดยอารจุน เซธี(Arjun Sethi) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอร่วม ให้ข้อมูลว่า "ความโปร่งใสถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้า และเรายินดีพิจารณาเรื่อง IPO ตามสภาพตลาด รวมถึงความต้องการของลูกค้า พันธมิตร และผู้ถือหุ้น" แม้ยังไม่มีการกำหนดช่วงเวลาชัดเจน แต่บรรยากาศด้านกฎหมายที่ปรับดีขึ้นนับเป็นสัญญาณบวก

เพื่อเตรียมความพร้อมด้านเงินทุนสำหรับ IPO คราเคนอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารใหญ่หลายแห่ง เช่น โกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกน ในการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14.6 ล้านล้านวอน) ปัจจุบัน คราเคนมีลูกค้ากว่า 10 ล้านรายจาก 190 ประเทศทั่วโลก และมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายไตรมาสสูงถึง 207,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 302 ล้านล้านวอน) ซึ่งถือว่าไม่แพ้คอยน์เบส เมื่อพิจารณาจากความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

ล่าสุด คราเคนยังได้เข้าซื้อบริษัทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐฯ อย่าง นินจาเทรดเดอร์(NinjaTrader) ด้วยมูลค่ากว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.19 ล้านล้านวอน) โดยข้อตกลงนี้ให้อำนาจคราเคนเข้าถึงใบอนุญาตนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับการรับรองจาก CFTC ได้โดยตรง ซึ่งจะเป็น ‘รากฐาน’ สำหรับธุรกิจอนุพันธ์คริปโตในอนาคต เซธีกล่าวว่า “นี่คือก้าวแรกสู่การสร้างแพลตฟอร์มระดับสถาบันแบบครบวงจรที่สามารถรองรับการเทรดทุกสินทรัพย์” ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้การแข่งขันกับคอยน์เบสซึ่งเปิดให้บริการซื้อขายล่วงหน้าสำหรับผู้บริโภคเมื่อปี 2023 ร้อนระอุยิ่งขึ้น

ด้านกฎหมายก็คลี่คลายเป็นบวกเช่นกัน โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ถอนฟ้องคดีต่อคราเคน ส่งผลให้ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบบรรเทาลงอย่างมีนัยสำคัญ คราเคนเปิดเผยว่าในข้อตกลงกับ SEC ไม่มีการยอมรับว่าทำผิดกฎหมายและไม่ต้องเสียค่าปรับหรือเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจแต่อย่างใด นอกจากนี้แนวนโยบายด้านคริปโตที่เปลี่ยนแปลงไปภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ยังช่วยสร้างแรงส่งบวกให้กับทั้งอุตสาหกรรมอีกด้วย

อีกหนึ่งการขยับที่สำคัญคือการกลับมาเปิดให้บริการ ‘สเตคกิ้ง’ ใน 37 รัฐของสหรัฐฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ถือครองเหรียญกลุ่ม ‘พิสูจน์ด้วยการถือหุ้น’ เช่น อีเธอเรียม(ETH) สามารถรับผลตอบแทนจากการฝากเหรียญไว้กับแพลตฟอร์ม ทั้งนี้คอยน์เบสยังถือครองกว่า 12% ของ ETH ที่ถูกสเตคบนเครือข่ายซึ่งช่วยเสริมรายได้ในส่วนนี้ คราเคนจึงคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมมากขึ้นในอนาคตอันใกล้

แม้คอยน์เบสยังครองตำแหน่งเบอร์หนึ่งในตลาดคริปโตของสหรัฐฯ อย่างมั่นคง แต่คราเคนกำลังไล่ตามอย่างไม่ลดละ ทั้งด้าน ‘การปฏิบัติตามกฎ’, ‘การขยายบริการ’ และ ‘ความมั่นคงด้านการเงิน’ หลายเสียงเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลทรัมป์ กำลังเปิดทางให้คราเคนสามารถเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อและอาจเขย่าความเป็นเจ้าตลาดของคอยน์เบสได้อย่างแท้จริง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความหลัก

คราเคนเตรียมซื้อ ‘นินจาเทรดเดอร์’ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ รุกตลาดฟิวเจอร์สสหรัฐฯ

Garantex กลับมาในชื่อ Grinex? รายงานชี้อาจเป็นแพลตฟอร์มสืบทอด

บักต์(Bakkt) ปรับโครงสร้างธุรกิจ หลังสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ หุ้นร่วง 27%

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1