ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ส่งสัญญาณ ‘เดดครอส’ (death cross) บนกราฟรายวันเมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา สร้างความตึงเครียดในหมู่นักลงทุน เนื่องจากเดดครอสคือรูปแบบทางเทคนิคที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น (50 วัน) ตัดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว (200 วัน) ซึ่งมักเป็น ‘สัญญาณเตือน’ ว่าทิศทางขาขึ้นสิ้นสุดลงและอาจเริ่มต้นขาลงระยะยาว โดยสถานการณ์นี้กำลังเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจมหภาคที่เริ่มส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ผันผวนมากขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านภาษีระหว่างประเทศ ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนโดยรวม เมื่อรวมกับ ‘เดดครอส’ ที่ปรากฏในกราฟของบิตคอยน์ บางฝ่ายมองว่าสัญญาณนี้อาจตัดความหวังในการฟื้นตัวระยะสั้นลงอย่างรุนแรง สะท้อนจากการเริ่มทยอยขายของนักลงทุนบางรายที่เลือกจะ ‘ตัดขาดทุน’ แทนที่จะถือสินทรัพย์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิเคราะห์บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับมุมมองเชิงลบทั้งหมด เนื่องจากในเชิงประวัติศาสตร์ บิตคอยน์เคยเกิดเดดครอสมาแล้ว 11 ครั้ง และแม้ว่าบางครั้งมันนำไปสู่ภาวะขาลงที่รุนแรง เช่นในปี 2014, 2018 และ 2022 ซึ่งบิตคอยน์ร่วงลงถึง 68% และใช้เวลากว่า 9–13 เดือนในการฟื้นตัว แต่ในอีก 7 ครั้งที่เหลือ เดดครอสกลับไม่ได้ส่งผลรุนแรงมากนัก โดยช่วงเวลาเหล่านั้นกินเวลาเพียง 1.5 ถึง 3.5 เดือน และราคาปรับตัวลดลงไม่เกิน 27% หรืออาจไม่ลดลงเลย *ความคิดเห็น* บางครั้งเดดครอสยังถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของรอบการฟื้นตัว
จู กียอง ซีอีโอของบริษัทคริปโตเควนต์ (CryptoQuant) แสดงความเห็นว่า เดดครอสครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงการปรับฐานระยะสั้น แต่เป็น ‘จุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงระยะยาว’ โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความต่างระหว่างมูลค่าตลาดโดยรวมของบิตคอยน์และมูลค่าที่ถูกใช้งานจริง (realized cap) ที่ขยายตัวห่างออกจากกัน ซึ่งเป็นสัญญาณจากอดีตที่เคยนำไปสู่ตลาดขาลง “ปกติแล้วกว่าจะเริ่มฟื้นตัวจริงจัง บิตคอยน์จะใช้เวลามากกว่า 6 เดือน” เขากล่าว
อีกด้านหนึ่ง นักวิเคราะห์บางคนกลับเชื่อว่าสถานการณ์ในตอนนี้อาจเป็น ‘กับดักของตลาดหมี’ มากกว่าการเข้าสู่ภาวะหมีจริงจัง นักวิเคราะห์นามแฝง ‘มิสเตอร์คริปโต’ (Mister Crypto) เตือนว่า "นี่อาจเป็นกับดักรอบใหม่ ซึ่งนำไปสู่การฟื้นตัวที่หลายคนจะคาดไม่ถึงในปี 2025" พร้อมชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์แบบเดียวกันในอดีตหลายครั้งได้กลายเป็นโอกาสในการเข้าซื้อก่อนเกิดการฟื้นตัว
เจมส์ บัตเตอร์ฟิล (James Butterfill) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทวิจัยคริปโต คอยน์แชร์ (CoinShares) เห็นต่างอีกเช่นกัน โดยตั้งข้อสงสัยถึง ‘ความแม่นยำของเดดครอส’ เขาให้ความเห็นว่า “หากมองว่ามันเป็นสัญญาณสำคัญ นั่นอาจเป็นการตีความอย่างผิด เพราะเมื่อดูจากสถิติแล้ว ราคาโดยเฉลี่ยหลังเกิดเดดครอสจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เช่น ลงหรือขึ้นราว 3% ภายในหนึ่งเดือน”
ขณะที่ความกังวลในตลาดนั้นไม่ได้มีแค่ที่บิตคอยน์เท่านั้น ดัชนีแนสแด็ก 100 (Nasdaq100) และ S&P500 ก็กำลังเข้าใกล้จุดเกิดเดดครอส รวมถึงหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างแอปเปิล(AAPL), ไมโครซอฟท์(MSFT), เอ็นวีเดีย(NVDA) และอัลฟาเบท(GOOGL) ก็ล้วนมีสัญญาณคล้ายกันแล้ว หรือเกิดขึ้นไปแล้ว *ความคิดเห็น* สิ่งนี้ส่งผลต่อนักลงทุนที่มองว่าภาวะกดดันจากตลาดทุนอาจลามมาสู่สินทรัพย์ดิจิทัลเช่นเดียวกัน
สุดท้ายแล้ว ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าบิตคอยน์กำลังเข้าสู่ตลาดหมีอย่างเต็มตัว หรือเพียงแค่ปรับฐานชั่วคราวเท่านั้น แต่ความไม่แน่นอนและข้อมูลที่ตีความได้หลายแง่มุมกำลังทำให้นักลงทุนต้องชั่งใจระหว่างการระมัดระวังกับการมองหาโอกาสใหม่ในตลาดที่ยังไม่นิ่ง
ความคิดเห็น 0