บริษัทเหมืองบิตคอยน์(BTC) บิตเดียร์(Bitdeer) ได้เดินหน้าขยายสัดส่วนการขุดด้วยตนเอง พร้อมเพิ่มการลงทุนด้านการผลิตในสหรัฐฯ เพื่อตอบรับกับความตึงเครียดทางการค้าระดับโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเอาตัวรอดของธุรกิจคริปโต ท่ามกลางความผันผวนของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
เมื่อวันที่ 24 Bloomberg รายงานว่า บิตเดียร์ตอบสนองต่อความต้องการอุปกรณ์ขุดที่ลดลง ด้วยการปรับกลยุทธ์สู่ ‘การขุดด้วยตนเอง’ โดยตรง เจฟฟ์ ลาเบิร์จ(Jeff LaBerge) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และตลาดทุนกล่าวว่า “เรากำหนดให้การขุดภายในเป็นแผนหลักในอนาคต” พร้อมเสริมว่า กลยุทธ์นี้จะเข้ามาเติมเต็มจุดอ่อนของโมเดลรายได้จากการขายอุปกรณ์ขุดแบบเดิม
จากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงจุดยืนด้านนโยบายภาษีนำเข้าที่เข้มงวดและผลักดันการฟื้นตัวของภาคการผลิตภายในประเทศ บิตเดียร์จึงประกาศแผนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตอุปกรณ์ขุดภายในสหรัฐฯ ลาเบิร์จเผยว่า “เราวางแผนเรื่องนี้มายาวนาน และหวังว่าจะมีส่วนช่วยสร้างงานและสนับสนุนฐานการผลิตในสหรัฐฯ”
ความพยายามดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณถึงมาตรการควบคุมการนำเข้าและการเรียกเก็บภาษีขาเข้าที่รุนแรงกว่าที่ผ่านมา ซึ่งอาจกระทบอุตสาหกรรมเหมืองคริปโตที่พึ่งพาห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่ออุปกรณ์ขุดต้องใช้ส่วนประกอบและกระบวนการผลิตจากหลายประเทศทั่วโลก
อุตสาหกรรมเหมืองบิตคอยน์กำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้านตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา โดยหลังการเกิดเหตุการณ์ ‘ฮาล์ฟวิ่ง’ เมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ทำให้รางวัลจากการขุดลดลงครึ่งหนึ่งจาก 6.25 BTC เหลือเพียง 3.125 BTC ซึ่งส่งผลให้ทั้งผลตอบแทนจากการขุดและราคาหุ้นของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ร่วงลงอย่างรุนแรง บิตเดียร์เองก็ได้รับผลกระทบ โดยรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2024 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และทำให้ราคาหุ้นร่วงลงกว่า 28% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แฮร์ริส แบสเซตต์(Harris Bassett) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของบิตเดียร์ ระบุว่า “รายได้ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลโดยตรงจากเหตุการณ์ฮาล์ฟวิ่ง” และชี้ให้เห็นถึงการลดลงของ ‘มาร์จิน’ และประสิทธิภาพการขุดในภาพรวม ขณะที่ข้อมูลจาก JPMorgan ระบุว่าหลังเหตุการณ์ฮาล์ฟวิ่ง รายได้จากการขุดและกำไรขั้นต้นของผู้ประกอบการลดลงเฉลี่ย 46% และ 57% ตามลำดับ
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก Hashrate Index ชี้ให้เห็นว่า ‘ราคาของแฮช’ ซึ่งสะท้อนรายได้เฉลี่ยต่อพลังการขุด กำลังเข้าใกล้จุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ แม้บิตเดียร์จะเดินหน้าเปิดตัวเครื่องขุดประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ที่เน้นการใช้พลังงานต่ำในปี 2024 เพื่อกระจายรายได้ แต่ยอดขายอุปกรณ์รุ่นดังกล่าวยังไม่สามารถชดเชยรายได้โดยรวมที่ลดลงได้
ขณะเดียวกัน บริษัทร่วมสายธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของประธานาธิบดีทรัมป์อย่าง อเมริกันบิตคอยน์(American Bitcoin) ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ท่ามกลางกระแสสนับสนุนคริปโตในสหรัฐฯ ‘ความคิดเห็น’ สะท้อนว่าความเปลี่ยนแปลงในภาคนโยบายและมุมมองจากภาครัฐอาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางอุตสาหกรรมในระยะยาว
ความคิดเห็น 0