บิตคอยน์(BTC) กำลังพยายามปรับตัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 หลังตลาดวอลล์สตรีทเปิดทำการ โดยมีเป้าหมายท้าทายจุดสูงสุดใหม่ของเดือนเมษายน แม้จะได้แรงหนุนจากทิศทางบวกที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ และเคลื่อนไหวใกล้เส้นต้านที่ 86,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.25 ล้านบาท) แต่ผู้เล่นในตลาดยังคงระมัดระวังจากแนวต้านจำนวนมากที่อาจจำกัดการปรับตัวขึ้น
แม้ความหวังในการฟื้นตัวกลับสู่ระดับ 90,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.31 ล้านบาท) ซึ่งไม่เคยเห็นมานับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมจะเพิ่มสูงขึ้น แต่สถานการณ์ไม่แน่นอนจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงในสหรัฐ ทำให้หลายฝ่ายยังไม่กล้าประเมินว่าแนวโน้มตลาดกลับเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว บัญชีวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง "Stockmoney Lizards" เตือนว่า “ไม่กี่วันก่อนทุกคนยังพูดถึง 50,000 ดอลลาร์ แต่พอมีแท่งเขียวแท่งเดียวก็กลับกลายเป็นเชิงบวกกันหมดแล้ว” พร้อมเตือนถึงความเสี่ยงจากการซื้อขายที่ใช้อารมณ์นำ
นักวิเคราะห์ประเมินว่าบิตคอยน์มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 78,000 ถึง 88,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.13–1.28 ล้านบาท) ไปก่อน อีกทั้งต้องผ่านแนวต้านระยะยาวที่ 97,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.41 ล้านบาท) ให้ได้ จึงจะสามารถขยับขึ้นสู่เป้าหมายถัดไปที่ 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ได้ในที่สุด
ในขณะที่หลายคนยังคงเกาะกราฟเพื่อจับสัญญาณ แต่ความเห็นจากตลาดชี้ว่า ความเปลี่ยนแปลงของ ‘จิตวิทยาการลงทุน’ อาจมีผลมากกว่า ‘รูปแบบกราฟ’ นักเทรดที่ใช้ชื่อว่า "SuperBro" ชี้ว่าการพุ่งขึ้นของ BTC ครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงแค่การแย่งชิงระดับ 86,000 ดอลลาร์ แต่เป็นความพยายามทดสอบจุดสูงสุดใกล้แนวเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ที่ 87,566 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.27 ล้านบาท) หากสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปรับฐานระยะสั้นก่อนเดินหน้าสู่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงเตือนจากนักวิเคราะห์สายเทคนิคบางรายเช่น ปีเตอร์ แบรนต์(Peter Brandt) ซึ่งแสดงมุมมองระมัดระวัง เขาระบุว่า “สิ่งที่เชื่อถือได้น้อยที่สุดในกราฟคือ ‘เส้นแนวโน้ม’ และการทะลุเส้นแนวโน้มไม่ได้หมายถึงการกลับตัวของแนวโน้ม” ซึ่งหมายความว่าการที่บิตคอยน์อาจจะปรับตัวขึ้นในช่วงนี้ ไม่ได้หมายความว่าตลาดกลับตัวเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน
โดยรวมแล้ว ตลาดกำลังเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ระหว่างแรงกระตุ้นทางเทคนิคกับปัจจัยเสี่ยงจากภายนอก เช่น นโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ดันให้นักลงทุนบางส่วนมองหาทางเลือกในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น การที่บิตคอยน์จะเปลี่ยนแนวโน้มได้จริงหรือไม่ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและความเคลื่อนไหวของราคาอีกระยะหนึ่ง
ความคิดเห็น 0