จีนขายบิตคอยน์(BTC)ยึดได้กว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องปรับกฎคุมคริปโต

จีนขายบิตคอยน์(BTC)ที่ยึดได้มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 5.7 แสนล้านบาท ท่ามกลางกระแสความกังวลถึงการขาดกฎระเบียบที่ชัดเจนในการจัดการทรัพย์สินดิจิทัลเหล่านี้

แม้จีนจะสั่งห้ามการซื้อขายคริปโตอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2021 แต่กลับมีรายงานว่าในช่วงที่ผ่านมา ทางการท้องถิ่นของจีนได้ทำการจำหน่ายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะบิตคอยน์เป็นจำนวนมาก โดยข้อมูล ณ สิ้นปี 2023 ระบุว่ารัฐบาลท้องถิ่นของจีนถือครองบิตคอยน์โดยรวมประมาณ 15,000 เหรียญ หรือมูลค่าราว 1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50,000 ล้านบาท)

รายงานข่าวระบุว่า หน่วยงานท้องถิ่นไม่ได้ดำเนินการในนามของรัฐหรือผ่านกระบวนการกลาง แต่ใช้บริษัทเอกชน เช่น บริษัทเจียฝานเซียง เป็นตัวแทนในการขายเหรียญที่ยึดได้ โดยตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา บริษัทรายนี้ได้จำหน่ายคริปโตไปแล้วกว่า 3 พันล้านหยวน โดยผลกำไรจากการขายจะถูกแปลงเป็นเงินหยวนและนำส่งเข้าบัญชีราชการท้องถิ่น

จีนกลายเป็นประเทศที่ถือครองบิตคอยน์มากเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ‘การขาดระเบียบกลาง’ ส่งผลให้แต่ละพื้นที่มีวิธีจัดการสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน จนเกิดความเสี่ยงด้านกฎหมายและช่องว่างต่อนโยบายปราบปรามการทุจริต

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) Reuters รายงานว่า วงการกฎหมายในจีนตั้งแต่ทนายความ ผู้พิพากษาระดับสูง ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มแสดงความกังวลและหารือเพื่อเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกยึด ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ในนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนกำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ศาสตราจารย์เฉินซือ แห่งมหาวิทยาลัยจงหนาน ตั้งข้อสังเกตว่า การขายเหรียญที่ยึดได้ในปัจจุบันเป็นเพียง ‘การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า’ ที่ยังขัดแย้งกับนโยบายห้ามคริปโตของจีนอย่างชัดเจน พร้อมเน้นย้ำว่า ในขณะที่จำนวนคดีและมูลค่าสินทรัพย์ที่ถูกยึดเพิ่มสูงขึ้น จีนจำเป็นต้องมีกฎที่มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานโดยเร็ว

ในเวทีสัมมนาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทนายความกัวจื้อห่าว ได้ชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่าง ‘นโยบายห้ามคริปโต’ กับ ‘ความจำเป็นในการจัดการสินทรัพย์ยึดได้’ พร้อมเสนอว่าธนาคารกลางควรเข้ามารับผิดชอบโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศ หรือการจัดตั้งคลังสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งชาติ

นอกจากประเด็นด้านนโยบาย การฉ้อโกงและอาชญากรรมคริปโตในจีนก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ปี 2023 มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงออนไลน์ ฟอกเงิน และการพนันผิดกฎหมาย คิดเป็นมูลค่ารวมถึง 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีผู้ต้องหากว่า 3,000 คนถูกตั้งข้อหาอาชญากรรมฟอกเงิน

‘ความคิดเห็น’ นักวิเคราะห์บางรายมองว่า รัฐบาลท้องถิ่นอาจมีแรงจูงใจในการเร่งขายคริปโตที่ยึดได้ เพราะรายได้จากการริบทรัพย์เช่นนี้เพิ่มขึ้นถึง 65% คิดเป็นมูลค่าราว 3.78 หมื่นล้านดอลลาร์ และในหลายเมือง สินทรัพย์ดิจิทัลที่ยึดได้กลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของงบประมาณท้องถิ่น