ข้อพิพาทการค้าสหรัฐฯ–จีนฉุดคริปโตร่วง บิตคอยน์(BTC) ดิ่ง 2% ตลาดสูญกว่า 3.75%

ความตึงเครียดจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนส่งผลให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีร่วงลงอย่างหนัก โดยตลาดส่วนใหญ่เผชิญแรงขายหลังจากสหรัฐฯ เพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงสุดถึง *245%* พร้อมกับออกมาตรการจำกัดการส่งออกชิปรอบใหม่ ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้รับผลกระทบตาม

ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้จีนกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้ง ทว่า จีนได้ตอบโต้ด้วยการย้ำว่าจะพูดคุยก็ต่อเมื่อเป็นไปภายใต้ ‘หลักการของความเท่าเทียม ความเคารพ และผลประโยชน์ร่วมกัน’ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติแรงกดดันและการคุกคาม ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต่างผลัดกันขึ้นภาษี โดยสหรัฐฯ เคยเก็บภาษี *145%* ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี *125%*

บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงกว่า *2%* ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่ารวมของตลาดคริปโตปรับตัวลดลง *3.75%* สะท้อนแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ดัชนีแนสแด็ก 100 ฟิวเจอร์สร่วงลง *1%* ส่วน S&P 500 ฟิวเจอร์สลดลง *0.65%* บ่งชี้ถึงแนวโน้มอ่อนแอของตลาดทุนโดยรวม โดยบิตคอยน์ถูกซื้อขายล่าสุดที่ *83,826 ดอลลาร์สหรัฐ*

หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 9 มีนาคม บิตคอยน์ได้ปรับตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มครั้งสำคัญ รายงานจากโคอินเบส อินสติทิวชั่นแนล ระบุว่า นี่คือสัญญาณเริ่มต้นของตลาดขาลงรอบใหม่ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

เดวิด ดวอง หัวหน้าฝ่ายวิจัยจากโคอินเบส อินสติทิวชั่นแนล กล่าวว่า เมื่อดูจากค่า *Z-score* ซึ่งเป็นตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพที่ปรับตามความเสี่ยงแล้ว ยืนยันได้ว่าตลาดกระทิงจบลงมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ และสินทรัพย์คริปโตกำลังเข้าสู่ช่วงทรงตัว ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน

แม้ว่าราคาโดยรวมจะลดลง แต่ *ความคิดเห็น* นักเทรดจากวินเทอร์มิวต์ชี้ว่า ความนิ่งของตลาดล่าสุดช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้เล่นสามารถใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงหรือ ‘เฮดจ์’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในอีกด้านหนึ่ง ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสองมหาอำนาจ โดยปีนี้เพิ่มขึ้นแล้วถึง *26%* ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ *3,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์* ขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง *9%*

อาลี มาร์ติเนซ นักวิเคราะห์คริปโตระบุว่า บิตคอยน์อยู่ในช่วงของ *การปรับฐานภายในแนวโน้ม* โดยระดับแนวรับที่ *83,200 ดอลลาร์สหรัฐ* ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจสนับสนุนการดีดตัวขึ้นได้ในระยะสั้น