อาร์โนลด์ พาลาซิโอส(Arnold Palacios) ผู้ว่าการหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา ปฏิเสธร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่อนุญาตให้มีการออกเหรียญสเตเบิลคอยน์แบบผูกค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้โครงการดังกล่าวต้องยุติลง
เมื่อวันที่ 11 ตามเวลาท้องถิ่น Cointelegraph รายงานว่าจากจดหมายอย่างเป็นทางการของพาลาซิโอส ระบุว่า ร่างกฎหมายที่อนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นของเขตทิเนียน(Tinian) ออก ‘มาริอานาสยูเอสดอลลาร์(MUSD)’ เป็นสเตเบิลคอยน์ที่อิงกับเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ และมีประเด็นทางกฎหมายหลายประการ ทำให้ไม่สามารถลงนามเห็นชอบได้
ทิเนียนเป็นเกาะที่มีประชากรราว 2,000 คน เน้นด้านการท่องเที่ยว และเป็น 1 ใน 4 เขตปกครองของหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา โดยจูด ฮอฟชไนเดอร์(Jude Hofschneider) สมาชิกวุฒิสภาท้องถิ่นเป็นผู้นำเสนอร่างกฎหมายนี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และรวมข้อเสนอเกี่ยวกับการออกสเตเบิลคอยน์ไว้ในนั้น ซึ่งจะให้อำนาจแก่กรมการเงินทิเนียนในการบริหาร จัดสรร และดำเนินการคืนเหรียญ MUSD ร่างดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะผู้แทนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม แต่กลับถูกคัดค้านในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม พาลาซิโอสยืนยันว่า เขาไม่ได้ต่อต้านการออกสเตเบิลคอยน์โดยตรง แต่กังวลว่ากฎหมายนี้ไม่ได้กำหนดกลไกควบคุมอุตสาหกรรมที่อาจมีการเข้าไปดำเนินการข้ามเขตอำนาจศาลได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมพนันออนไลน์ที่อาจอยู่นอกเหนือการควบคุม ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญของข้อเสนอดังกล่าว
การยับยั้งกฎหมายครั้งนี้ส่งผลให้ทิเนียนพลาดโอกาสที่จะกลายเป็นเขตแรกของสหรัฐฯ ที่รัฐบาลท้องถิ่นออกเหรียญสเตเบิลคอยน์อย่างเป็นทางการ โดยขณะนี้ทางรัฐไวโอมิงเตรียมเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ของรัฐภายในเดือนกรกฎาคม ซึ่งหากไม่มีเหตุขัดข้อง ทิเนียนน่าจะได้เปิดตัว MUSD ล่วงหน้าก่อน
ตามแผน MUSD จะได้รับการสนับสนุนด้วยเงินสดสหรัฐฯ และพันธบัตรรัฐบาลแบบ 100% ผ่านการบริหารของกรมการเงินท้องถิ่น โดยมีบริษัทมาริอานาสไร คอร์ปอเรชัน(Marianas Rai Corporation) ที่ตั้งอยู่ในไซปัน รับหน้าที่เป็นพันธมิตรโครงสร้างพื้นฐานแต่เพียงผู้เดียวในการพัฒนา MUSD และระบบการดำเนินงานทั้งหมด โทเค็น MUSD ยังถูกวางแผนให้ใช้บนบล็อกเชนของอีแคช(eCash) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่แยกตัวจากบิตคอยน์แคช(BCH)
อีกหนึ่งเป้าหมายของโครงการ MUSD คือการเชื่อมโยงกับโครงการเคเบิลใต้ทะเลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่เพิ่งประกาศโดยกูเกิล ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ต โดยจะวางสายเคเบิลจากแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ผ่านทิเนียน ไปสู่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งMUSDถูกคาดหวังว่าจะเป็นหนึ่งในกลไกการเงินสนับสนุนการเชื่อมโยงนี้ แต่การยับยั้งร่างกฎหมายครั้งนี้ก็หมายถึงการชะลอความคืบหน้าครั้งสำคัญอย่างเลี่ยงไม่ได้
ความคิดเห็น 0