ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) แสดงจุดยืนพร้อมดำเนินการดูแลเสถียรภาพของตลาดอย่างเต็มที่ แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า *ดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังเกินไป* ซูซาน คอลลินส์(Susan Collins) ประธานเฟดสาขาบอสตัน ย้ำเมื่อไม่นานมานี้ว่า หากตลาดเผชิญวิกฤต *สภาพคล่องเฉียบพลัน* เฟดก็พร้อมจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นทันที
คอลลินส์ ระบุว่า ปัจจัยภายนอก เช่น ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน หรือแรงกระแทกจากภาคการเงิน อาจก่อให้เกิดความปั่นป่วนในระบบตลาด ทั้งนี้ เฟดมีเครื่องมือเพียงพอที่จะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบหากสถานการณ์เลวร้ายลง อย่างไรก็ตาม เธอระบุว่า *ในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณผิดปกติที่ชัดเจนทางด้านสภาพคล่อง* บ่งบอกว่าเฟดยังคงนโยบายเดิมโดยไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในระยะสั้น
ล่าสุด เฟดได้ลดเพดานการขายคืนพันธบัตรรัฐบาลลงถึง 80% เพื่อลดความเข้มงวดของนโยบาย *คุมเข้มทางการเงิน (Quantitative Tightening: QT)* การตัดสินใจดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดแรงกดดันต่อตลาดที่อาจเกิดจากมาตรการคุมเข้มที่รุนแรงเกินไป ความเห็นของคอลลินส์ในฐานะหนึ่งในผู้มีสิทธิออกเสียงของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เป็นสัญญาณว่าเฟดต้องการสื่อสารเชิงบวก เพื่อสร้างความมั่นใจต่อเสถียรภาพทางการเงินโดยรวม
ท่าทีของเฟดย่อมมี *อิทธิพลต่อสภาพคล่องของเงินดอลลาร์ทั่วโลก* ซึ่งส่งผลต่อ *ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี* โดยเฉพาะ *บิตคอยน์(BTC)* ที่เคลื่อนไหวสัมพันธ์กับระดับสภาพคล่องอย่างชัดเจน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยคิงส์ตัน สหราชอาณาจักรในปีนี้ ยังยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่าง *ปริมาณสภาพคล่องและราคาคริปโต* ได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงหลังโควิด-19
ขณะนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะ *คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนพฤษภาคม* แต่ *ความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน* เริ่มขยายตัวมากขึ้น โดยราคาสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์สะท้อนความน่าจะเป็นของการลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนไว้ที่ประมาณ 67.5% หากเฟดตัดสินใจดำเนินการจริง *ตลาดคริปโตจะตอบสนองในทันที* ความเคลื่อนไหวของเฟดจึงยังเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0