ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 โดยบิตคอยน์(BTC) ทะยานทะลุระดับ *93,000 ดอลลาร์* สร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุนทั่วโลก การพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้เกิดจากแรงหนุนหลายปัจจัย ทั้งมุมมองทางการเมืองที่เป็นบวก การไหลเข้าของเงินทุนจากสถาบัน และภาวะ ‘รักความเสี่ยง’ ที่เริ่มกลับมาอีกครั้งในหมู่นักลงทุน
ประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐมนตรีคลัง สกอตต์ เวสเซนต์ ส่งสัญญาณคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเวสเซนต์ระบุว่าอัตราภาษีที่ปัจจุบันพุ่งสูงถึง *145%* นั้น "ไม่สามารถคงอยู่ได้ในระยะยาว" ซึ่งความเห็นนี้ไม่เพียงกระตุ้นตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อตลาดคริปโตและสินทรัพย์เสี่ยงในวงกว้าง
ในขณะเดียวกัน บิตคอยน์ ETF แบบสปอตก็รายงานยอดเงินไหลเข้าสุทธิสูงถึง *381 ล้านดอลลาร์* ภายในวันจันทร์วันเดียว ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา *ความคิดเห็น:* ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในคริปโตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อไมโครสเตรทเทจีตัดสินใจเข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก *6,500 BTC* ย้ำจุดยืนเชิงบวกในการถือครองสินทรัพย์ระยะยาว
บรรยากาศที่เป็นบวกยิ่งขึ้นเมื่อ *พอล แอ็ตกินส์* ประธานคนใหม่ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ (SEC) ได้มีการยกเลิกการดำเนินคดีกับโครงการคริปโตรายสำคัญหลายราย ส่งสัญญาณชัดถึงการสนับสนุนนวัตกรรมในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล แนวทางแบบ ‘เป็นมิตรกับคริปโต’ นี้ช่วยเพิ่มความคาดหวังในเรื่องกฎระเบียบที่สนับสนุนการเติบโต
ด้านสกุลเงินดิจิทัลอื่น อีเธอเรียม(ETH) ขยับเหนือ *1,700 ดอลลาร์* ส่วนโดชคอยน์(DOGE) และสุย(SUI) ก็ปรับขึ้นกว่า *8.6%* และ *เกือบ 12%* ตามลำดับ ขณะที่ดัชนี S&P 500 และแนสแด็กก็เริ่มฟื้นตัวหลังจากเผชิญแรงขายอย่างหนักช่วงก่อนหน้า
กระนั้นก็ตาม ข้อมูลจากคริปโตควอนต์ชี้ว่า เมื่เปรียบเทียบกับตลาดกระทิงในอดีต ระดับ *สภาพคล่อง* และ *ดีมานด์จากรายใหม่* ยังอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้เกิดแรงขายเมื่อราคาทดสอบแนวต้านสำคัญ แต่ในภาพรวม สัญญาณโมเมนตัมขาขึ้นในตลาดคริปโตได้ถูกจุดประกายอีกครั้งแล้วในเวลานี้
ความคิดเห็น 0