เทเลแกรมหนุน TON ในการพัฒนามินิแอปฯ หวังขยายฐานผู้ใช้ 950 ล้านราย

สตีฟ ยุน(Steve Yun) ผู้แทนจากมูลนิธิโครงการ TON เปิดเผยว่าการตัดสินใจของเทเลแกรม(Telegram) ในการสนับสนุนเฉพาะเครือข่ายเปิดของ TON เพื่อพัฒนามินิแอปพลิเคชัน (Mini Apps) นั้น เป็นการเลือกที่ “จำเป็น” ไม่ใช่ข้อจำกัด เนื่องจากคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยและความสามารถในการขยายตัวของเครือข่ายที่สำคัญต่อระบบเป็นหลัก

เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เทเลแกรมได้ลงนามความร่วมมือกับมูลนิธิ TON เพื่อกำหนดให้ TON เป็นเครือข่ายเดียวที่รองรับมินิแอปพลิเคชัน ซึ่งสร้างคำถามในชุมชนคริปโตเกี่ยวกับความโปร่งใสและการยึดมั่นในแนวคิดการกระจายอำนาจ (Decentralization) อย่างไรก็ตาม ยุนได้เน้นย้ำว่า เทคโนโลยีการแบ่งเครือข่าย (Sharding) ของ TON มีความสำคัญยิ่งยวดในการจัดการกับธุรกรรมจำนวนมหาศาลที่เกิดขึ้นจากฐานผู้ใช้กว่า 950 ล้านรายของเทเลแกรม และการขาดเทคโนโลยีดังกล่าวอาจทำให้การนำระบบไปใช้ในวงกว้างเป็นไปได้ยาก

ในประเด็นความปลอดภัย ยุนยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความซับซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บล็อกเชนหลากหลายภายในระบบนิเวศดิจิทัลของเทเลแกรม โดยระบุว่าผู้ที่เลือกใช้งานบล็อกเชนที่มีข้อจำกัดด้านความสามารถในการขยายตัว อาจต้องหาทางเลี่ยงผ่านการทำงานแบบ "ออฟเชน" (Off-Chain) ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มเติม

แม้ว่ามินิแอปพลิเคชันจะใช้ TON เป็นเครือข่ายเฉพาะ แต่เทเลแกรมบอท (Telegram Bot) ยังคงรองรับบล็อกเชนหลายประเภทตามเดิม ยุนกล่าวว่าการอนุญาตให้มีตัวเลือกที่หลากหลายนี้เป็นแนวทางที่เทเลแกรมใช้ในการสนับสนุนความยืดหยุ่น และมองว่านี่อาจเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับ TON โดยเฉพาะในแง่ที่นักพัฒนาจำนวนมากขึ้นอาจหันมาใช้ TON ในการสร้างผลิตภัณฑ์ในระบบนิเวศของเทเลแกรม

เพื่อเดินหน้าการพัฒนาระบบนิเวศของ TON ยุนได้ก่อตั้ง TVM Ventures ในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ พร้อมเปิดตัวกองทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 36,250 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และแอปพลิเคชันที่ใช้เครือข่าย TON ยุนเน้นย้ำว่าการทำงานร่วมกันในเชิงสร้างสรรค์ภายในชุมชนจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อน TON ไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ตลาดของโทเคนตระกูลโทนคอยน์(TON) ยังคงเผชิญกับความท้าทาย หลังจากที่เคยมีมูลค่าตลาดสูงสุดถึง 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 905,000 ล้านบาทในเดือนเมษายน 2024 แต่มูลค่ากลับลดลงถึง 64% ต่อมา ทั้งนี้ มูลค่ารวมที่ถูกนำมาล็อก (TVL) ภายในเครือข่ายก็ลดลงถึง 73% จากจุดสูงสุดในเดือนกรกฎาคมของปีเดียวกัน ยุนกล่าวว่าเพื่อกู้คืนความเชื่อมั่น จำเป็นต้องมีความพยายามที่เข้มแข็งจากชุมชนTON และการทำงานร่วมกันอย่างตั้งใจเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป