ฟินิกซ์กรุ๊ปขยายกำลังขุดบิตคอยน์(BTC) เป็น 132MW ในเอธิโอเปีย ดันกำลังขุดทั่วโลกทะลุ 500MW

ฟินิกซ์กรุ๊ป(Phoenix Group) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดบิตคอยน์(BTC) ได้ขยายกำลังการขุดเพิ่มเติมอีก 52 เมกะวัตต์(MW) ในเอธิโอเปีย ทำให้กำลังขุดรวมในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 132MW และมีกำลังขุดรวมทั่วโลกทะลุ 500MW เป็นครั้งแรก

มูนาฟ อาลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(CEO) ของฟินิกซ์กรุ๊ป เปิดเผยว่า การเข้าถึงพลังงานที่ ‘อุดมสมบูรณ์และต้นทุนต่ำ’ เป็น ‘กลยุทธ์หลัก’ ของบริษัท พร้อมเสริมว่า การขยายตัวครั้งนี้ในเอธิโอเปียไม่เพียงแต่มุ่งสู่ผลกำไรระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังสร้างความได้เปรียบในเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาวอีกด้วย

การดำเนินการล่าสุดนี้สืบเนื่องจากการลงนามสัญญาในเดือนมกราคม ที่ฟินิกซ์กรุ๊ปได้รับสิทธิ์ใช้พลังงานจำนวน 80MW จากแหล่งในเอธิโอเปีย โดยตั้งเป้าจะเริ่มเดินเครื่องในไตรมาสที่สองของปี 2025 โครงการใหม่จำนวน 52MW นี้จะถูกแบ่งเป็นสองช่วง คือ ในช่วงแรกจะติดตั้งระบบขุดแบบอากาศเย็นจำนวน 5,300 เครื่อง ที่ให้ค่าแฮชเรต (Hashrate) 1.2 เอกซาแฮชต่อวินาที ขณะที่ในช่วงถัดไปจะเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งจะเพิ่มกำลังการขุดเป็น 2.4 เอกซาแฮชต่อวินาที

สำหรับคำว่า “เอกซาแฮช” หมายถึงหน่วยวัดพลังประมวลผลในการขุดคริปโต ซึ่งแสดงถึงจำนวนการคำนวนที่สามารถดำเนินการได้ใน 1 วินาที โดยฟินิกซ์กรุ๊ปยังระบุว่า โครงการนี้จะใช้พลังงานหมุนเวียนจาก ‘พลังน้ำ’ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดทั้งหมด

เรซา เนซาเตียน CEO ของฝ่ายศูนย์ข้อมูลและการขุดเหมืองในเครือฟินิกซ์กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทใช้ ‘พลังน้ำ’ สำหรับการขุดทั้งหมดในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ ‘การขุดที่ยั่งยืน’ ในทวีปแอฟริกา พร้อมเสริมว่า โมเดลนี้จะกำหนด ‘มาตรฐานใหม่’ ให้กับอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ฟินิกซ์กรุ๊ปได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาบูดาบีเมื่อปลายปี 2023 และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุนในช่วงการเสนอขายหุ้น IPO ด้วยอัตราการจองซื้อที่สูงถึง 33 เท่า โดยระดมทุนได้ทั้งสิ้น 371 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5,418 ล้านบาท ซึ่งหลังการเข้าตลาดได้ไม่นาน ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 50% จากราคาเปิดขาย และล่าสุดมีราคาซื้อขายอยู่ที่ราว 7.94 ดอลลาร์

การขยายการลงทุนครั้งนี้ เป็นผลมาจากทิศทางของการลดต้นทุนพลังงานทั่วโลก ผสานกับศักยภาพของแอฟริกาในด้าน ‘โครงสร้างพื้นฐานพลังน้ำที่อุดมสมบูรณ์’ และนโยบายเอื้อประโยชน์จากภาครัฐ ฟินิกซ์กรุ๊ปยังคงยืนยันเดินหน้าใช้ ‘พลังงานสะอาดในต้นทุนต่ำ’ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจและโมเดลการขุดที่ยั่งยืนในอนาคตต่อไป