บิตคอยน์(BTC) กำลังแสดงสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะทะลุระดับ 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ในอีกไม่ช้า จากข้อมูลบนเชนล่าสุดพบว่า ปัจจุบันบิตคอยน์ประมาณ 87% ของซัพพลายทั้งหมดอยู่ในสถานะทำกำไร ซึ่งเป็นสัญญาณ ‘แง่บวกสุดขีด’ ที่มักปรากฏก่อนการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของราคา
ตามรายงานของแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบนเชนอย่างคริปโตควอนต์ (CryptoQuant) เมื่อวันที่ 28 ระบุว่า ประมาณ 86.9% ของบิตคอยน์ทั้งหมดมีราคาตลาดสูงกว่าราคาที่ถูกซื้อไว้ หมายความว่าเจ้าของส่วนใหญ่กำลังถือครองสินทรัพย์ที่มีผลกำไร โดยในทางสถิติ หากตัวเลขนี้ไต่ระดับขึ้นถึงช่วง 85% - 90% ตลาดมักเข้าสู่ ‘ภาวะคลั่งการเก็งกำไร’ ไม่ใช่เพียงแค่ความมั่นใจตามปกติ
ย้อนดูช่วงพฤศจิกายนถึงธันวาคมของปีที่ผ่านมา บิตคอยน์มีราคาทะยานจาก 80,000 ดอลลาร์ ไปแตะระดับกว่า 100,000 ดอลลาร์ (ราว 1.17 ล้านบาท) โดยในช่วงนั้น สัดส่วนของบิตคอยน์ที่อยู่ในภาวะทำกำไรก็เพิ่มจากต่ำกว่า 80% ไปแตะ 99% สอดคล้องกับราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย
รอบนี้ การฟื้นตัวของบิตคอยน์ได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนรายใหม่และกลุ่มที่ใช้กลยุทธ์ตามแรงส่ง ขณะที่แรงขายจากกลุ่มที่ต้องการทำกำไรกลับมีน้อย ซึ่งเป็นจุดที่ ‘น่าสนใจ’ เป็นพิเศษ โดยคริปโตควอนต์ชี้ว่า การเคลื่อนไหวของเหรียญไปยังตลาดแลกเปลี่ยนยังอยู่ในระดับต่ำ และนักลงทุนระยะสั้นยังไม่แสดงพฤติกรรมขายอย่างเด่นชัด พร้อมกับวิเคราะห์ว่า “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาทองของการเข้าสะสม”
เมื่อรวมข้อมูลบนเชนกับบรรยากาศโดยรวมของตลาด นักวิเคราะห์หลายฝ่ายประเมินว่า บิตคอยน์มีโอกาสพุ่งกลับไปแตะระดับสูงสุดใหม่ในช่วง 110,000 - 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.67 ล้านบาท) ในระยะเวลาอันใกล้
อีกปัจจัยหนึ่งที่เสริมแรงบวก คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน โดย ‘ความคาดหวังว่าทรัมป์จะกลับมาชนะเลือกตั้ง’ ถือเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนต่อราคาบิตคอยน์ นักลงทุนมองว่าทรัมป์มีแนวโน้มสนับสนุนคริปโตมากกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน และอาจส่งผลให้เกิด ‘กฎระเบียบที่เป็นมิตรและชัดเจนมากขึ้น’ ในระยะยาว ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการสะท้อนถึงความหวังในแนวนโยบายเชิงบวก หากทรัมป์กลับมานั่งทำเนียบขาวอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0