ธนาคารระดับโลก สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เปิดเผยรายงานล่าสุดที่คาดการณ์ว่า บิตคอยน์(BTC) มีแนวโน้มทำ ‘จุดสูงสุดใหม่’ ภายในไตรมาส 2 ปีนี้ พร้อมประเมินราคาสามารถพุ่งแตะระดับ *120,000 ดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ *4.3 ล้านบาท* ทำให้ตลาดคริปโตกลับมาจับตาอย่างใกล้ชิด
ณ ขณะนี้ บิตคอยน์(BTC) ยังคงซื้อขายอยู่ในกรอบ *ช่วงกลางของระดับ 90,000 ดอลลาร์* โดยมีหลากหลายปัจจัยจากเวทีโลกที่คาดว่าจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเฉพาะการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงเป็น ‘ตัวแปรหลัก’
ในเชิงเทคนิค บิตคอยน์(BTC) แสดง ‘แรงตอบรับเชิงบวก’ จากระดับแนวรับสำคัญระหว่าง *93,220 ถึง 94,244 ดอลลาร์* โดยนักวิเคราะห์คริปโตบางรายระบุว่า ราคามีการฟื้นตัวหลังจากปรับตัวลงแบบ ‘3-wave pattern’ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ความคิดเห็นส่วนใหญ่จากผู้เชี่ยวชาญ แสดงมุมมองในทิศทาง ‘บวก’ ต่อแนวโน้มระยะสั้น โดยระบุว่า หากบิตคอยน์ยังคงสามารถยืนเหนือแนวรับปัจจุบันไว้ได้ ก็มีโอกาสเดินหน้าต่อได้ในระยะสั้น โดยเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ระดับ *96,275 ดอลลาร์*
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ยังคงแกว่งผันผวนระหว่างระดับแนวต้านและแนวรับ โดยมีจุดต้านสำคัญบริเวณ *95,450 ดอลลาร์* ซึ่งหากราคาสามารถทะลุผ่านไปได้ ก็จะเปิดทางให้เกิดการปรับตัวขึ้นในรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สถานการณ์ในตลาดยังมีความเปลี่ยนแปลงสูงและคาดการณ์ได้ยากในระยะนี้
แม้ว่าราคาจะยังขึ้นๆ ลงๆ แต่ตลาดยังไม่สามารถยืนยัน ‘จุดสูงสุด’ ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายเชื่อว่า บิตคอยน์ยังมี ‘แนวโน้มขาขึ้น’ และอาจสร้างระดับราคาสูงใหม่ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0