Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

แบล็คร็อกทดลองใช้บล็อกเชนจัดเก็บข้อมูลหุ้นนักลงทุนในกองทุน TTTXX มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์

แบล็คร็อกทดลองใช้บล็อกเชนจัดเก็บข้อมูลหุ้นนักลงทุนในกองทุน TTTXX มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ / Tokenpost

แบล็คร็อก(BlackRock) ได้ยื่นคำขอต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) เพื่อทดลองใช้เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทดิจิทัล(DLT) กับการดำเนินงานของกองทุนตลาดเงิน BLF Treasury Trust Fund (TTTXX) ที่บริหารอยู่ภายใต้บริษัท การยื่นขอในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะสร้าง ‘บันทึกกระจก’ สำหรับหุ้นของนักลงทุนบนบล็อกเชน เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลการถือครอง

ตามรายละเอียดในเอกสารที่ยื่น BX Digital (ชื่อของหุ้นในระบบใหม่) จะไม่ถูกเปิดขายทั่วไป แต่จะจำกัดการซื้อขายผ่านแบล็คร็อกแอดไวเซอร์ และธนาคารนิวยอร์กเมลลอน (BNY Mellon) เท่านั้น ปัจจุบันกองทุนดังกล่าวมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,190 ล้านบาท) โดยเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และเงินสดเป็นหลัก

บริษัทระบุว่า นักลงทุนสถาบันที่ซื้อหุ้นนี้จะได้รับการบันทึกข้อมูลการถือครองในระบบกระดานบัญชีดั้งเดิมเช่นเดิม ขณะที่ BNY Mellon จะเก็บรักษาบันทึกกระจกของหุ้นเหล่านั้นบนบล็อกเชนเพื่อวัตถุประสงค์ด้าน *ความโปร่งใส* และ *การตรวจสอบย้อนกลับ* อย่างไรก็ตาม หุ้นในรูปแบบ DLT นี้จะไม่ผ่านกระบวนการ ‘โทเคนไนซ์ (tokenization)’ แบบที่ใช้ในกองทุน BUIDL ของแบล็คร็อก แต่เป็นการผนวกเทคโนโลยีเข้ากับกระบวนการเดิมเพื่อเสริมความเชื่อมั่นทางข้อมูล

ในเอกสารที่เปิดเผยต่อ SEC ไม่มีการระบุชื่อย่อประจำตัวหุ้น (Ticker) หรือค่าธรรมเนียมในการบริหารกองทุน แต่มีการกำหนดว่า นักลงทุนสถาบันจะต้องลงทุนขั้นต่ำไม่ต่ำกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43.8 ล้านบาท)

ความเคลื่อนไหวของแบล็คร็อกครั้งนี้ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากกรณีที่ฟิเดลิตี้(Fidelity) ได้ยื่นเอกสารต่อ SEC เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เพื่อขออนุมัติออกหุ้นแบบ ‘OnChain’ ให้กับกองทุน Treasury Digital Fund (FYHXX) ที่มีขนาดสินทรัพย์กว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,170 ล้านบาท) ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติ โดยคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 พฤษภาคม

*ความคิดเห็น*: การผลักดันของแบล็คร็อกและฟิเดลิตี้สะท้อนถึงทิศทางใหม่ของวอลสตรีทที่ต้องการรวมสินทรัพย์ในโลกความเป็นจริงเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชน ทั้งนี้ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มความโปร่งใส และเปิดทางสู่รูปแบบการลงทุนยุคใหม่

ตามรายงาน ตลาดการโทเคนไนซ์พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขยายตัวมูลค่าแตะ 6.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 89,000 ล้านบาท) ขณะที่กองทุน BUIDL ของแบล็คร็อกมีสัดส่วนการถือครองถึง 2.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 37,000 ล้านบาท) ถือเป็นผู้นำในตลาด ส่วนในฝั่งของแฟรงคลิน เทมเพิลตัน(Franklin Templeton) ก็เข้าร่วมในกระแสนี้ด้วยการโทเคนไนซ์สินทรัพย์จริงกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,200 ล้านบาท) ผ่านกองทุน ‘Franklin OnChain U.S. Government Money Fund (BENJI)’ เช่นกัน

*คำสำคัญ*: แบล็คร็อก, กองทุนตลาดเงิน, DLT, บล็อกเชน, โทเคนไนซ์, หุ้นดิจิทัล, BUIDL, ฟิเดลิตี้, พันธบัตรสหรัฐฯ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความหลัก

คราเคนเตรียมซื้อ ‘นินจาเทรดเดอร์’ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ รุกตลาดฟิวเจอร์สสหรัฐฯ

Garantex กลับมาในชื่อ Grinex? รายงานชี้อาจเป็นแพลตฟอร์มสืบทอด

บักต์(Bakkt) ปรับโครงสร้างธุรกิจ หลังสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ หุ้นร่วง 27%

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1