ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
แม้อีเธอเรียม(ETH) จะยังคงทำผลงานได้ต่ำเมื่อเทียบกับโทเคนคู่แข่งในช่วงต้นตลาดขาขึ้น แต่ความหวังใหม่กำลังมุ่งไปที่การอัปเกรดครั้งสำคัญที่มีชื่อว่า ‘เพกทรา(Pectra)’ ซึ่งมีกำหนดเปิดใช้งานในเดือนหน้า โดยการอัปเกรดนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความง่ายในการใช้งานและประสิทธิภาพของระบบสเตกกิ้ง ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของเครือข่ายหลักและกระตุ้นความต้องการใช้งาน ETH อีกครั้ง
ขณะนี้ อีเธอเรียมซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1,813 ดอลลาร์ หรือราว 2.64 ล้านบาท ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 4,870 ดอลลาร์ถึง 56% หากเทียบกับคู่แข่งอย่างโซลานา(SOL) และ BNB อีเธอเรียมยังคงแสดงประสิทธิภาพที่ด้อยกว่า แต่ ‘ความคิดเห็น’ จากบางฝ่ายในตลาดเชื่อว่า การอัปเกรดเพกทราอาจเป็นปัจจัยที่จุดประกายศักยภาพ ETH อีกครั้ง
เพกทราจะมีการบรรจุข้อเสนอการปรับปรุงระบบของอีเธอเรียม (EIP) จำนวน 11 รายการ โดยเน้นไปที่การขยาย Layer 2, การพัฒนา UX (ประสบการณ์ผู้ใช้) และประสิทธิภาพของสเตกกิ้ง หนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ EIP-7702 ซึ่งจะทำให้กระเป๋าเงินธรรมดาสามารถทำงานแบบสมาร์ตคอนแทรกต์ได้ชั่วคราว เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์(DApp) สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมแก๊สแทนผู้ใช้ หรือใช้โทเคนอื่นนอกเหนือจาก ETH ในการชำระค่าธรรมเนียมได้
การเปลี่ยนแปลงนี้มีแนวโน้มช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงระบบบล็อกเชนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มแอปพลิเคชันที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การชำระเงิน, แอปมือถือ และเกม ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ระบบ อนึ่ง กลยุทธ์การชำระค่าธรรมเนียมด้วยโทเคนอื่นจะไม่ลดทอนบทบาทของ ETH ในระบบนิเวศ เพราะ ETH ยังคงเป็น ‘สกุลเงินหลัก’ ที่ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมในระดับโปรโตคอล โดยระบบจะทำการแปลงโทเคนกลางเป็น ETH เพื่อประมวลผลค่าธรรมเนียม
ในด้านของสเตกกิ้ง EIP-7251, 6110 และ 7002 เตรียมเปิดโอกาสให้ผู้ตรวจสอบเครือข่ายสามารถวางเงินประกัน (stake) สูงสุดถึง 2,048 ETH เพิ่มจากเดิมที่จำกัดไว้เพียง 32 ETH พร้อมทั้งปรับกระบวนการเข้าร่วมและถอนตัวจากการเป็นผู้ตรวจสอบให้สะดวกขึ้น ซึ่งอาจช่วยดึงดูดนักลงทุนจากสถาบันกลับเข้ามาในเครือข่าย หลังจากบางองค์กรเทขาย ETH ออกไปจากความไม่พึงพอใจในเรื่องความแออัดและปัญหาด้านประสิทธิภาพของเครือข่าย
ในระยะกลางถึงยาว เพกทราอาจเป็นแรงผลักสำคัญในการหนุนราคา ETH ทั้งจากด้านอุปสงค์และอุปทาน ขณะที่การยกระดับประสบการณ์ใช้งานและฟีเจอร์กระเป๋าเงินแบบใหม่จะช่วยเพิ่มกิจกรรมบนเครือข่าย ซึ่งนำไปสู่การเร่งอัตราการ *เผาเหรียญ* หรือ Burn อีเธอเรียม ซึ่งช่วยจำกัดอุปทานและสร้างแรงกดดันด้านราคาจากฝั่งที่เสนอขาย
ปัจจุบัน อัตราการเผาเหรียญ ETH ลดลงมาเหลือเพียงวันละ 70 ETH ใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2024 ที่มีอัตราอยู่ในช่วง 2,000–4,000 ETH ต่อวัน หากเพกทราสามารถกระตุ้นการใช้งานบนระบบได้จริง ก็มีความเป็นไปได้ที่ปริมาณการเผานี้จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งและช่วยสนับสนุนราคาในทางอ้อม ตลาดกำลังจับตาดูว่าเพกทราจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอีเธอเรียมหรือไม่
ความคิดเห็น 0