ราคาของอีเธอเรียม(ETH) ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องกำลังส่งผลให้ *นักลงทุนรายใหญ่* หลายรายเริ่มเคลื่อนไหวขายเหรียญในพอร์ต แม้ว่าจะมีแรงขายในตลาด แต่ยังพบว่าสถาบันบางแห่งยังคงเดินหน้าซื้อสะสมอีเธอเรียมอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) จากข้อมูลของนักวิเคราะห์บล็อกเชน อาลี มาร์ติเนซ ระบุว่าเมื่อราคาของอีเธอเรียมฟื้นตัว กลุ่ม ‘วาฬ’ หรือที่หมายถึงผู้ถือคริปโตจำนวนมาก ได้ทยอย *ขาย* เหรียญออกไปประมาณ 262,000 อีเธอเรียม คิดเป็นมูลค่าราว *445 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ*
หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือบริษัทกาลักซี ดิจิทัล ได้โอนย้ายเหรียญจำนวน 23,900 อีเธอเรียม (ประมาณ 42.5 ล้านดอลลาร์) ไปยังกระดานซื้อขายคริปโตชื่อดัง ‘คอยน์เบส’ โดยแพลตฟอร์มวิเคราะห์อย่างลูคอนเชนประเมินว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการ *เตรียมขายทำกำไร* อีเธอเรียม นอกจากนี้ ยังพบว่ากาลักซี ดิจิทัลอาจกำลังปรับพอร์ตโดยเปลี่ยนไปถือ *โซลานา(SOL)* แทน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า นักลงทุนรายใหญ่รายหนึ่งได้เข้าซื้ออีเธอเรียมราว 15,000 เหรียญ ที่ราคาต่อหน่วย 1,801 ดอลลาร์ และตัดสินใจขายภายใน 3 ชั่วโมงหลังซื้อ เนื่องจากประสบภาวะขาดทุน โดยมีการขายออกจนหมดภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น
ด้านบว กของตลาดก็ยังมีให้เห็นเช่นกัน เช่น กิจกรรมบนเครือข่ายของอีเธอเรียมเพิ่มขึ้นถึง *10%* และ *ETF อีเธอเรียม* ก็ยังคงได้รับเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยลูคอนเชนรายงานว่า *กระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องกับบริษัทคัมเบอร์แลนด์* ได้ถอนอีเธอเรียมจากกระดานเทรดอย่างคูเปอร์, คอยน์เบส และไบแนนซ์ รวมเป็นมูลค่า *50 ล้านดอลลาร์*
สิ่งที่อาจเป็นข่าวดีที่สุดในรอบนี้คงหนีไม่พ้นการเปิดเผยว่าบริษัทจัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่าง *แบล็คร็อก* มีแผนจะ *โทเคนไรซ์* กองทุนทรัสต์พันธบัตรรัฐบาลมูลค่า *15 หมื่นล้านดอลลาร์* บนบล็อกเชนของอีเธอเรียม ความเคลื่อนไหวนี้อาจส่งแรงสนับสนุนให้ตลาดคริปโตโดยรวม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอีเธอเรียม กลับมาอยู่ในจุดที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นอีกครั้ง
*คำสำคัญ:* อีเธอเรียม(ETH), กาลักซี ดิจิทัล, โซลานา(SOL), ETF อีเธอเรียม, แบล็คร็อก, โทเคนไรซ์
ความคิดเห็น 0