ไรอัน ฌอน อดัมส์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบงค์เลส(Bankless) และผู้สนับสนุนอีเธอเรียม(ETH) จุดประเด็นถกเถียงขึ้นอีกครั้งหลังจากระบุว่า ‘เป้าหมายราคา’ ของอีเธอเรียมสามารถพุ่งไปแตะ *17,000 ดอลลาร์* ซึ่งหมายถึงการเพิ่มขึ้นมากกว่า 9 เท่าจากระดับราคาปัจจุบัน
ในมุมมองของอดัมส์ เหตุผลนั้นเรียบง่าย: เขาเชื่อว่าอีเธอเรียมสามารถกลายเป็นสินทรัพย์มูลค่า *2 ล้านล้านดอลลาร์* ได้ ซึ่งจะทำให้ราคาของเหรียญพุ่งขึ้นหากนำจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนในตลาดมาพิจารณา เขานิยามอีเธอเรียมว่าเป็น "ทองคำดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทน" ซึ่งรวมเอาระบบการสเตกกิ้งและ *มูลค่าพิเศษจากการใช้งานในระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ* เข้าด้วยกัน
มุมมองเรื่องราคา *17,000 ดอลลาร์* นี้ได้รับการสนับสนุนจากนักวิเคราะห์นิรนาม 'คิอูโค่ยน์' ซึ่งเคยคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยเขาอธิบายว่าอีเธอเรียมกำลังอยู่ในช่วง "shakeout" คือช่วงที่ราคาปรับฐานอย่างรุนแรงเพื่อ ‘เขย่า’ นักลงทุนขาลงออกจากตลาด ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้นแรงเหมือนในปี 2021 ที่เคยพุ่งขึ้นถึง *1,310%* หลังจากตลาดหมีในปี 2020
ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม X อดัมส์ทวีตว่า อีเธอเรียมในฐานะคริปโตที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับสองสามารถแตะมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์แบบบิตคอยน์ และยังมีรายได้จากการสเตกกิ้งซึ่งเป็น *ข้อได้เปรียบเพิ่มเติม* เขาเรียกแนวคิดนี้ว่า *“ข่าวประเสริฐเงินสีฟ้า (Blue Money Gospel)”* และกล่าวว่า “เงินคือความเชื่อที่ถูกสร้างขึ้นด้วยโค้ด”
*ความคิดเห็น:* มุมมองของอดัมส์ได้รับแรงสนับสนุนจากบริษัทการลงทุนชื่อดังอย่างอาร์ค อินเวสต์(Ark Invest) ของแคธี วูด(Cathie Wood) ซึ่งอธิบายว่าอีเธอเรียมในระบบสเตกกิ้งนั้นมีลักษณะคล้ายกับ *“ตราสารหนี้ดิจิทัล”* และสามารถเปรียบเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้
แซม คาเซเมียน ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มแฟร็กซ์ไฟแนนซ์(Frax Finance) กล่าวผ่านรายการของแบงค์เลสว่า ปัญหาของอีเธอเรียมไม่ใช่เทคโนโลยี แต่คือการ *เล่าเรื่องหรือการตลาด* เขาเชื่อว่าอีเธอเรียมควรวางตัวเป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็บมูลค่ามากกว่าการถูกมองว่าเป็นแค่เครื่องมือสร้างกระแสเงินสด
คำวิจารณ์ก็ยังมีอยู่เช่นกัน โดยบอยด์ โคเฮนแสดงความเห็นว่า “บิตคอยน์มีความหายากในแบบที่อีเธอเรียมไม่มี” จึงตั้งคำถามต่อศักยภาพในการเป็น "ทองคำดิจิทัลอย่างแท้จริง" และจอห์น ฮาร์ จากสวอนบิตคอยน์(Swan Bitcoin) ก็กล่าวเหน็บแนมว่า “ในเมื่อคุณต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ได้ผลตอบแทน แล้วใครคือคนที่จ่ายให้?”
ปัจจุบันอีเธอเรียมฟื้นตัวขึ้นราว *30%* จากจุดต่ำสุดที่ *1,400 ดอลลาร์* หลังจากราคาร่วงลงในไตรมาสแรก แต่ายังคง *ลดลง 44%* เมื่อเทียบกับปีก่อน และอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 4,878 ดอลลาร์ ถึง *63%*
ความคิดเห็น 0