บิตคอยน์(BTC) ฟื้นตัวแรง 20,000 ดอลลาร์ นักลงทุนรายใหญ่เข้าซื้อเพิ่ม ส่อแววพุ่งแตะ 114,000 ดอลลาร์

บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่า 75,000 ดอลลาร์ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน โดยสาเหตุหลักมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศที่เกิดจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

อย่างไรก็ตาม ราคากลับฟื้นตัวขึ้น 20,000 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ หลังมีประกาศระงับการเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศนอกเหนือจากจีน ทำให้บิตคอยน์ทะลุแนวต้านที่ 90,000 ดอลลาร์ และเข้าสู่ช่วงราคาที่แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 93,000-95,000 ดอลลาร์

เมื่อวานเกิดความพยายามในการทะลุแนวรับด้านล่าง แต่ราคายังคงทรงตัวได้ดีและเริ่มกลับมาทดสอบช่วงบนของกรอบอีกครั้ง โดยตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ เริ่มส่งสัญญาณว่า ‘ภาวะไร้ทิศทาง’ ดังกล่าวอาจสิ้นสุดในเร็วๆ นี้

อาลี มาร์ติเนซ นักวิเคราะห์คริปโตเคอร์เรนซี ระบุว่า ‘แถบโบลินเจอร์’ บนกราฟ 4 ชั่วโมงกำลังหดแคบลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ในเร็วๆ นี้ “ถ้าราคาไม่หลุดแนวรับที่ 93,198 ดอลลาร์ โอกาสไต่ขึ้นยังคงมีสูง” มาร์ติเนซเผย พร้อมเสริมว่าหากสามารถทะลุแนวต้านที่ 95,870 ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสพุ่งถึงจุดสูงสุดใหม่ที่ 114,230 ดอลลาร์

ในด้านกระแสการซื้อขาย พบว่านักลงทุนรายใหญ่อยู่ในโหมด ‘เก็บสะสม’ มากขึ้น โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีบิตคอยน์มูลค่าราว 4 พันล้านดอลลาร์ถูกซื้อลงทุนโดยนักลงทุนทุนใหญ่ อีกทั้งข้อมูลกองทุน ETF บิตคอยน์ยังระบุว่า ระหว่างวันที่ 17-30 เมษายน มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิอย่างต่อเนื่อง แม้เมื่อวานจะพบการไหลออกมูลค่า 56.3 ล้านดอลลาร์ แต่ยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับปริมาณเงินที่ไหลเข้าไปก่อนหน้านี้

มาร์ติเนซยังกล่าวถึง ‘คะแนนแนวโน้มการสะสมของบิตคอยน์’ ว่าใกล้เคียงระดับ 1 ซึ่งเป็นสัญญาณว่า *นักลงทุนขนาดใหญ่กำลังสะสมเหรียญอย่างเข้มข้น*

ขณะเดียวกัน ปริมาณบิตคอยน์ที่ถูกเก็บไว้บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่างๆ ก็ลดต่ำลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น นักวิเคราะห์จากบริษัทสวอนให้ความเห็นว่า การลดลงของสภาพคล่องดังกล่าวยังไม่สะท้อนในระดับราคาขณะนี้ ซึ่งอาจกลายเป็น ‘ตัวเร่ง’ ให้ราคาวิ่งแรงขึ้นในระยะถัดไป