บริษัทที่สามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดีไฟ(DeFi) บนพื้นฐานของบิตคอยน์(BTC) ให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานครั้งแรกได้ก่อน อาจสามารถครองตลาดผู้ใช้บิตคอยน์ซึ่งมีจำนวนมากถึง 300 ล้านคนได้ในอนาคต
อเล็กเซย์ ซามยาติน(Alexei Zamyatin) ผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจกต์เลเยอร์ 2 อย่าง บิลด์ ออน บิตคอยน์(Build on Bitcoin) กล่าวในงาน TOKEN2049 ที่จัดขึ้นในดูไบเมื่อไม่นานนี้ว่า *ข้อได้เปรียบของดีไฟบนบิตคอยน์อยู่ที่ขนาดของตลาดที่ใหญ่และมีผู้ใช้งานรายย่อยจำนวนมหาศาลที่พร้อมเข้าถึงได้* เขายังระบุว่า *บริษัทใดที่สามารถประสบความสำเร็จในดีไฟบนบิตคอยน์ ย่อมมีโอกาสกลายเป็นผู้ชนะในตลาดบล็อกเชนโดยรวม*
ซามยาตินเผยว่า ปัจจุบันผู้ใช้งานบิตคอยน์มีจำนวนถึงประมาณ 300 ล้านคนแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นฐานที่แข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับอีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ที่เป็นแพลตฟอร์มหลักของดีไฟก่อนหน้านี้ เขายังเน้นย้ำว่า หากสามารถดึงจุดแข็งของความปลอดภัยจากบิตคอยน์ มาผสมผสานกับความสามารถของดีไฟในเครือข่ายอื่นได้อย่างลงตัว อนาคตของดีไฟในบิตคอยน์จะสามารถขยายตัวได้เกินกว่าที่เคยเกิดขึ้นบนอีเธอเรียมหรือโซลานา
บิลด์ ออน บิตคอยน์กำลังพัฒนาซอลูชันเลเยอร์ 2 แบบไฮบริด ซึ่งรวมคุณสมบัติของบิตคอยน์และดีไฟจากอีเธอเรียมเข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า ‘BitVM’ ซึ่งสามารถประมวลผลสมาร์ทคอนแทรกต์บนบิตคอยน์ได้อย่างสมบูรณ์ และ ‘ความเห็น’ คือ ทำให้บิตคอยน์สามารถรองรับการใช้งานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้โดยไม่กระทบความปลอดภัยของเครือข่าย
นอกจากนี้ ซามยาตินยังกล่าวว่า การสร้างโครงสร้างดีไฟบนบิตคอยน์ จำเป็นต้องมีบริดจ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับบิตคอยน์ เพื่อให้การเชื่อมโยงกับโลกดีไฟเกิดขึ้นได้จริง เขามองว่า *แม้เครือข่ายบิตคอยน์จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังขาดแคลนทรัพยากร เช่น เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาและเครือข่ายนักพัฒนา ที่เครือข่ายอย่างอีเธอเรียมมี*
จากมุมของซามยาติน การที่บิตคอยน์จะกลายเป็นศูนย์กลางของดีไฟในอนาคตได้นั้น ไม่ใช่แค่การยกระดับทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องพัฒนาประสบการณ์การใช้งาน รวมถึงวางกลยุทธ์อุตสาหกรรมใหม่อย่างรอบด้านด้วย
ความคิดเห็น 0