บิตคอยน์(BTC) กำลังพยายามทะลุแนวต้านที่ระดับ 95,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากฟื้นตัวจากภาวะชะลอตัวช่วงเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยราคาได้ร่วงลงแตะระดับ 92,910 ดอลลาร์ในช่วงหนึ่ง เนื่องจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) ของสหรัฐฯ ในไตรมาสแรกปี 2025 หดตัวลง แต่ราคาก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ที่พลิกกลับมาบวก 0.35% และ 0.15% ตามลำดับในวันเดียวกัน
มีการประเมินในตลาดว่า การชะลอตัวของ GDP อาจเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราวจากการที่ภาคธุรกิจนำเข้าสินค้าล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากแผนการเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งกำลังผลักดันการจัดเก็บภาษีกับประเทศต่าง ๆ ถึงกว่า 90 แห่ง ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขเศรษฐกิจจะไม่สอดคล้องในช่วงสั้น ๆ จากผลกระทบของนโยบายดังกล่าว
แม้ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะเป็นข่าวร้ายของสินทรัพย์แบบดั้งเดิม แต่ในฝั่งนักลงทุนคริปโตกลับมองต่าง เพราะมองว่าสิ่งเหล่านี้อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต้องหันกลับมาลดดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาด ความเห็นดังกล่าวมีน้ำหนักเมื่อพิจารณาจากสถิติในอดีตซึ่งพบว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับการปรับขึ้นของราคาบิตคอยน์
ข้อมูลจากตลาดซื้อขายสัญญาดอกเบี้ยล่วงหน้า บ่งชี้ว่า ความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายน ความน่าจะเป็นที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 63.8% จาก 59.8% ในวันก่อนหน้า ซึ่ง ‘คำ’ สะท้อนให้เห็นว่าตลาดเริ่มให้น้ำหนักกับทิศทางนโยบายการเงินใหม่ที่จะรองรับสถานะเศรษฐกิจที่ชะลอลง
ท่ามกลางปัจจัยลบที่รายล้อม บิตคอยน์ยังสามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่าแนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอและความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย จะส่งผลให้เฟดปรับท่าที ซึ่งจะยิ่งช่วยผลักดันบิตคอยน์ให้กลายเป็น ‘สินทรัพย์ทางเลือก’ โดย ‘ความคิดเห็น’ จากผู้เชี่ยวชาญในวงการชี้ว่า นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาโดดเด่นอีกครั้งของสกุลเงินดิจิทัลในบริบทเศรษฐกิจระดับมหภาคที่ไม่นิ่งนัก
ความคิดเห็น 0