อีเธอเรียม(ETH) จ่อทะลุ 2,000 ดอลลาร์, ไฮพ์(HYPE) พุ่ง 7% นำตลาดคริปโต

ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในสัปดาห์นี้ได้มีการวิเคราะห์ราคาของสกุลเงินสำคัญอย่างอีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP), คาร์ดาโน(ADA), โซลานา(SOL) และไฮพ์(HYPE) โดยมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองทั้งด้านแรงซื้อและแรงขายในแต่ละเหรียญ

อีเธอเรียม(ETH) ปิดสัปดาห์ด้วยการปรับขึ้น 3% แม้จะไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,825 ดอลลาร์ได้ แรงขายยังคงกดดันราคาอย่างต่อเนื่อง แต่แรงซื้อก็ยังคงสะสมอยู่บริเวณใต้แนวต้าน หากบิตคอยน์(BTC) ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็มีแนวโน้มว่าอีเธอเรียมจะสามารถเบรกแนวต้านนี้และพุ่งสู่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้ในเร็วๆ นี้

ริปเปิล(XRP) ขยับขึ้นเล็กน้อยน้อยกว่า 1% เมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยราคายังเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 2.3 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนแรง หากสามารถยืนเหนือระดับ 2.3 ดอลลาร์ได้ ก็อาจเริ่มเห็นการฟื้นตัวโดยมีเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 2.6 ดอลลาร์

คาร์ดาโน(ADA) ปิดตัวลง 2% ในสัปดาห์นี้ โดยราคายังคงทรงตัวเหนือแนวรับสำคัญที่ 0.64 ดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตาม แรงขับเคลื่อนราคายังดูไม่แข็งแกร่ง ทำให้มีโอกาสที่แนวรับดังกล่าวจะถูกทดสอบอีกครั้ง หากกลุ่มผู้ซื้อสามารถดันราคาให้ทะลุระดับ 0.8 ดอลลาร์ได้ อาจเปิดทางให้พุ่งขึ้นสู่ 0.9 ดอลลาร์ และอาจแตะถึงระดับ 1 ดอลลาร์ในระยะถัดไป

โซลานา(SOL) ปรับตัวลดลง 3% สัปดาห์นี้ หลังจากทดสอบแนวต้านที่ 152 ดอลลาร์ถึง 2 ครั้งแต่ไม่สามารถฝ่าได้ ความพยายามในการทะลุแนวต้านดังกล่าวถูกต้านแรงขายที่แข็งแกร่ง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลงและมีแนวโน้มเกิดสัญญาณตัดลงบน MACD รายวัน สถานการณ์นี้บ่งชี้ว่าราคาอาจย่อลงสู่แถว 130 ดอลลาร์ในช่วงเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะเกิดการฟื้นตัวรอบใหม่

ไฮพ์(HYPE) กลับมาแสดงความแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยทะลุแนวต้านที่ 19 ดอลลาร์และขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 21 ดอลลาร์ คิดเป็นการปรับขึ้น 7% ในรอบสัปดาห์ แม้จะเผชิญแรงต้านที่บริเวณ 21 ดอลลาร์ แต่ตราบใดที่ราคายังคงรักษาระดับเหนือ 20 ดอลลาร์เอาไว้ได้ แนวโน้มขาขึ้นยังคงเป็นต่อ หากสามารถเบรก 21 ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งไปแตะระดับ 23 ดอลลาร์ในระยะสั้น ท่ามกลางกระแสขาขึ้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน

*ความคิดเห็น*: ตลาดคริปโตฯ ในสัปดาห์นี้ยังคงเต็มไปด้วยแรงผลักดันที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากบิตคอยน์ ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อเหรียญหลักหลายชนิด อย่างไรก็ตาม เหรียญรองบางตัวเริ่มแสดงอาการอ่อนแรง ซึ่งนักลงทุนควรจับตาแนวรับและแนวต้านสำคัญอย่างใกล้ชิด