คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ยุติคดีฟ้องร้องกับบริษัทริปเปิลอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากดำเนินคดีมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 ซึ่งจุดเปลี่ยนนี้ถูกมองว่าอาจนำไปสู่การเจรจาระงับข้อพิพาทในอนาคต อย่างไรก็ตาม เส้นทางการฟื้นตัวของริปเปิลและเหรียญดิจิทัล ริปเปิล(XRP) ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของริปเปิล(XRP) ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 6.3% ซึ่งถือว่าไม่หวือหวานัก เมื่อเทียบกับความเสียหายที่สะสมมาตลอดช่วงคดีตามรายงานล่าสุดของ All Things XRP ความเสียหายจากการฟ้องร้องไม่ได้จำกัดเพียงการลดลงของราคา แต่ยังส่งผลลึกถึงชื่อเสียงในวงการของเหรียญนี้
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน คดีที่ SEC ยื่นฟ้องต่อริปเปิล ส่งผลให้ตลาดหลักในสหรัฐฯ อย่างหลายบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ต้องถอดถอนริปเปิล(XRP) ออกจากรายการซื้อขาย ซึ่งส่งผลให้เหรียญร่วงลงถึง *66.5%* ภายในเดือนธันวาคม 2020 เพียงเดือนเดียว เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่ลดสภาพคล่องในตลาด แต่ยังสร้างรอยร้าวในความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันอย่างรุนแรง
ในช่วงปี 2021 ถึง 2023 ราคาของริปเปิล(XRP) เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 0.30 ถึง 0.50 ดอลลาร์ แม้ว่าราคาจะพุ่งขึ้นถึง *276.2%* ในปี 2021 และ *82.5%* ในปี 2023 แต่เมื่อเทียบกับผลงานของคู่แข่งหลักอย่าง โซลานา(SOL) ที่ราคาพุ่งขึ้น *11,180%* ในปี 2021 และฟื้นตัวกลับอย่างแข็งแกร่งถึง *918.4%* ในปี 2023 ตัวเลขของ XRP ยังถือว่าล้าหลังอย่างเห็นได้ชัด
“*ความคิดเห็น:* คดีของ SEC ทำให้เวลาหลายปีที่ริปเปิลควรใช้ในการพัฒนาและขยายธุรกิจในภาคการชำระเงินข้ามพรมแดนต้องสูญเปล่าไป” นักวิเคราะห์จาก All Things XRP กล่าว
รายงานยังชี้ให้เห็นว่า ช่วงเวลาที่เสียไปนี้เปิดโอกาสให้โซลานาและโครงการอื่น ๆ เข้าชิงพื้นที่ในตลาด ที่แต่เดิมเป็นของริปเปิล(XRP)
แม้ว่า SEC จะประกาศยุติคดีแล้ว แต่ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ราคาของริปเปิล(XRP) กลับเพิ่มขึ้นเพียง *0.6%* ขณะที่ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด กลับลดลง *1.1%* ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขาดแรงขับเคลื่อนใหม่
อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวของริปเปิลกลับเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว บริษัทกำลังเดินหน้ายื่นขอจดทะเบียนกองทุน ETF ใหม่ เปิดตัวเหรียญสเตเบิลคอยน์ RLUSD รวมถึงเซ็นสัญญาความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ
*ความคิดเห็น:* แม้จะยังไม่เห็นผลทันตาในด้านราคา แต่หากริปเปิลสามารถฟื้นฟูชื่อเสียงและพัฒนาเทคโนโลยีได้ต่อเนื่อง XRP ก็ยังมีโอกาสกลับมายืนหยัดในฐานะผู้นำตลาดการชำระเงินต่างประเทศอีกครั้งในอนาคต
ความคิดเห็น 0