เกิดความสงสัยเกี่ยวกับเหตุผลที่ทำให้ *พาย เน็ตเวิร์ก(Pi Network)* ยังไม่ถูกนำไปจดทะเบียนบนกระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบรวมศูนย์รายใหญ่ แม้ในขณะที่โครงการคริปโตส่วนมากมุ่งผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนโดยเร็ว แต่ *พาย เน็ตเวิร์ก* กลับเลือกเดินหน้าด้วยความระมัดระวัง โดยเน้นเรื่อง ‘การปฏิบัติตามข้อกำหนด’, ‘การสร้างความน่าเชื่อถือ’ และ ‘การวางรากฐานเพื่อความสำเร็จในระยะยาว’
ทั้งนี้ *พาย เน็ตเวิร์ก* กำลังมุ่งดำเนินโครงการในแนวทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของโครงการ *Digital Currency Global Initiative* ซึ่งนำโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU ภายใ้องค์การสหประชาชาติ (UN) ร่วมกับ *โครงการริเริ่มอนาคตสกุลเงินดิจิทัลของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด* โดยมีแกนหลักอยู่ที่ 5 ประเด็น คือ ‘การเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม’, ‘ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability)’, ‘การยืนยันตัวตนทั้งในระดับบุคคล (KYC) และองค์กร (KYB)’, ‘ความสามารถในการตั้งโปรแกรมธุรกรรม’ และ ‘การสนับสนุน DeFi’
สิ่งที่น่าจับตามองคือ *พาย เน็ตเวิร์ก* ไม่ได้จำกัดการยืนยันตัวตนไว้แค่เฉพาะผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้บริษัทหรือตัวกลาง เช่น แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบ KYB ด้วย ซึ่ง *OKX* กลายเป็นกระดานซื้อขายรายแรกที่ผ่านเกณฑ์ KYB อันเข้มงวดของ *พาย เน็ตเวิร์ก* ได้สำเร็จ สะท้อนถึงจุดยืนของโครงการที่เน้น ‘มาตรฐาน’ และ ‘ความน่าเชื่อถือ’ มากกว่าความพร้อมในการนำเหรียญเข้าสู่ตลาด
แม้ว่าจะยังไม่เปิดเมนเน็ตอย่างเป็นทางการ แต่ภายในระบบของ *พาย เน็ตเวิร์ก* ได้มีการเปิดให้ผู้ใช้งานที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วสามารถเปิดใช้งาน ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ซึ่งเป็นฟังก์ชันใหม่ที่โครงการเพิ่งเปิดตัว คณะทำงานของโครงการให้ข้อมูลว่า ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานหลายล้านคนสามารถเริ่มต้นใช้งานบล็อกเชนและเข้าร่วมในระบบนิเวศได้รวดเร็วขึ้น
*ความคิดเห็น*: ท่าทีของ *พาย เน็ตเวิร์ก* อาจดูแปลกแยกในตลาดที่มักมุ่งสู่การเติบโตแบบเร่งด่วน แต่ก็สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวและความตั้งใจที่จะรักษาความยั่งยืนของแพลตฟอร์มในระยะยาวได้อย่างน่าจับตา
ความคิดเห็น 0