อดีตซีอีโอเซลเซียสเผชิญคำพิพากษา 8 พ.ค. หลังถูกกล่าวหาฉ้อโกง-ปั่นราคาโทเคน CEL

อเล็กซ์ มาชินสกี(Alex Mashinsky) อดีตซีอีโอของเซลเซียส เน็ตเวิร์ก(Celsius Network) มีกำหนดเข้ารับฟังการพิจารณาคดีพิพากษาในวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ศาลแขวงตอนใต้ของนิวยอร์ก ท่ามกลางกระแสเรียกร้องจากผู้ใช้งานคริปโตเคอเรนซีที่ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง เขาถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์และพยายามปั่นราคาของโทเคน CEL ซึ่งเป็นโทเคนประจำแพลตฟอร์ม

เมื่อวันที่ 2 อัยการได้เผยแพร่เอกสารที่รวบรวมความคิดเห็นของผู้ลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของเซลเซียส ซึ่งแม้หลายฉบับจะถูกยื่นล่าช้ากว่ากำหนด แต่ศาลก็ยังรับไว้พิจารณา โดยมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ขอความเมตตาต่อมาชินสกี ขณะที่เสียงส่วนใหญ่อ้างถึงความเสียหายทางการเงินอย่างหนักและความทุกข์ทรมานส่วนตัว โดยยืนยันว่าควรมีการลงโทษเจ้าตัวอย่างเด็ดขาด

ดาเนียล ฟรีชเบิร์ก ผู้อาศัยในเขตฮิลส์โบโร รัฐฟลอริดา ได้ยื่นจดหมายความคิดเห็นเมื่อวันที่ 24 เมษายน ระบุว่า “ผู้ที่มีส่วนร่วมและได้ประโยชน์จากการฉ้อโกงครั้งนี้จำนวนมากยังคงลอยนวล การจะปล่อยมาชินสกีให้หลุดรอดด้วยโทษเบาอย่างรอลงอาญาหรือกักบริเวณในบ้านนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เขาควรได้รับโทษสถานหนัก”

เซลเซียสเคยได้รับความนิยมในฐานะผู้ให้บริการฝากคริปโตพร้อมผลตอบแทน แต่ต้องเผชิญวิกฤตสภาพคล่องจนต้องยื่นล้มละลายในปี 2022 หลังตลาดคริปโตทรุดตัวอย่างรุนแรง นักลงทุนจำนวนมากไม่สามารถถอนสินทรัพย์ของตนได้ และเกิดข้อกล่าวหาว่าผู้บริหารได้ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความมั่นคงของบริษัทเพื่อให้ผู้ใช้งานยังคงฝากเงินต่อไป

จากข้อมูลของอัยการ ระบุว่ามาชินสกีได้แสดงตัวเลขทางการเงินของเซลเซียสเกินจริง รวมถึงเข้าไปมีส่วนร่วมในกลยุทธ์ปั่นราคาของโทเคน CEL ข้อเท็จจริงเหล่านี้ชี้ไปถึงความพยายามควบคุมตลาดเพื่อประโยชน์ของบริษัทและตัวเขาเอง ‘มูลเหตุ’ ของคดีนี้จึงมีนัยมากกว่าการล้มละลายของธุรกิจ แต่ขยายผลไปถึงประเด็นความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมด

“ความคิดเห็น” คดีของมาชินสกีกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการกำหนดความรับผิดชอบของผู้บริหารในวงการคริปโต และนักลงทุนจำนวนมากกำลังจับตาดูผลคำตัดสินอย่างใกล้ชิด โดยเชื่อว่าคดีนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมจะสามารถเดินหน้าด้วยความโปร่งใสและคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้งานได้จริงหรือไม่