ไบแนนซ์และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ตกลงระงับกระบวนการทางกฎหมายเป็นเวลา 60 วัน การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ SEC จัดตั้ง 'หน่วยงานพิเศษด้านคริปโต' ขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้เกิดความสนใจในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมาก
หลังจาก มาร์ค อูเยดา เข้ารับตำแหน่งกรรมาธิการคนใหม่เมื่อเดือนที่ผ่านมา SEC ได้ทบทวนแนวทางการกำกับดูแลคริปโตอีกครั้ง การระงับคดีครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพิจารณาว่าหน่วยงานพิเศษใหม่นี้จะส่งผลอย่างไรต่อคดีที่กำลังดำเนินอยู่ ทั้งสองฝ่ายจะประเมินสถานการณ์เพื่อพิจารณาว่าจะขยายเวลาหรือไม่เมื่อครบกำหนด 60 วัน
เอลีเนอร์ เตรตต์ นักข่าวจาก Fox Business รายงานว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจส่งผลต่อคดีที่ SEC ยื่นฟ้องบริษัทคริปโตอื่น ๆ เช่น ริปเปิล(XRP), คอยน์เบส(COIN) และคราเคน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับคดีที่ไม่ได้มีการฉ้อโกง ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวทางปฏิบัติทางกฎหมายในอนาคต
จากเอกสารทางกฎหมายที่ยื่นต่อศาล การตัดสินใจระงับคดีชั่วคราวนี้มุ่งเน้นไปที่การลดผลกระทบที่ไม่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย รวมถึงลดต้นทุนการสืบสวนทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความแน่ชัดว่าการตัดสินใจนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไบแนนซ์หรือไม่ เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว ศาลฎีกาสหรัฐปฏิเสธคำอุทธรณ์ของไบแนนซ์และผู้ก่อตั้ง จางเผิง เจา(CZ) ซึ่งทำให้คำตัดสินของศาลล่างที่ระบุว่าสหรัฐสามารถบังคับใช้กฎหมายหลักทรัพย์กับไบแนนซ์ยังคงมีผลบังคับใช้ เนื่องจากนักลงทุนในสหรัฐใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าว
ในขณะที่กระบวนการทางกฎหมายดำเนินไป รัฐบาลภายใต้ทรัมป์ก็ได้รับความสนใจจากแนวทางผ่อนคลายกฎระเบียบด้านคริปโตของ SEC เมื่อเดือนที่แล้ว SEC ได้เปิดตัวหน่วยปฏิบัติการคริปโตอย่างเป็นทางการภายใต้การนำของ เฮสเตอร์ เพียร์ซ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกำหนดสถานะทางกฎหมายที่ชัดเจนของสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมทั้งปรับแนวทางจากการบังคับใช้กฎหมายไปสู่กรอบการกำกับดูแลที่มีโครงสร้างมากขึ้น จุดเน้นสำคัญอยู่ที่การจัดหมวดหมู่ของสินทรัพย์ดิจิทัล การกำหนดข้อกำหนดด้านการลงทะเบียน และการกำหนดมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกฎระเบียบที่ซ้ำซ้อน
อุตสาหกรรมคริปโตมองว่าการหยุดชั่วคราวของคดีไบแนนซ์เป็นระยะเวลา 60 วันนี้ อาจเป็นสัญญาณสำคัญต่อทิศทางการกำกับดูแลของ SEC ในอนาคต
ความคิดเห็น 0