ชายชาวเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกกว่า 30 ปี จากกรณีที่ส่งเงินผ่าน *คริปโตเคอร์เรนซี* ให้กับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม(ISIS) ตามประกาศของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 โดยผู้พิพากษาเดวิด โนแบค(David Novak) มีคำสั่งให้ลงโทษ โมฮัมเหม็ด อาซาร์อูดิน ชิปปา(Mohammed Azharuddin Chhipa) เป็นเวลา 30 ปี 4 เดือน ฐานสนับสนุนการก่อการร้าย
จากการสอบสวน นายชิปปา วัย 35 ปี ถูกกล่าวหาว่าได้โอนเงินให้กับผู้หญิงที่เป็นสมาชิกของ ISIS ซึ่งอยู่ในประเทศซีเรีย ระหว่างเดือนตุลาคม 2019 ถึงตุลาคม 2022 โดยเงินดังกล่าวถูกใช้เพื่อหลบหนีจากสถานคุมขัง และสนับสนุนกิจกรรมติดอาวุธของกลุ่มดังกล่าว
นอกจากนี้ ผู้ต้องหาได้ใช้แพลตฟอร์มส่งข้อความออนไลน์ และโซเชียลมีเดียในการระดมทุน และยังเดินทางไกลหลายร้อยไมล์ด้วยตนเองเพื่อรับเงินสด ก่อนจะแปลงเงินเหล่านั้นเป็น *คริปโตเคอร์เรนซี* แล้วส่งไปยังตุรกี ซึ่งต่อจากนั้นถูกนำส่งข้ามพรมแดนไปยังสมาชิก ISIS ในซีเรีย
พฤติกรรมสนับสนุนทางการเงินโดยตรงต่อองค์กรที่ถูกขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้ายจากองค์การสหประชาชาติ ทำให้ศาลสหรัฐฯ มีคำพิพากษาให้ลงโทษสูงสุด โดยคณะลูกขุนกลางมีคำวินิจฉัยเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนว่า ชิปปามีความผิดจริงในข้อหาสมคบคิดสนับสนุนองค์กรก่อการร้าย 1 กระทง และข้อหาสนับสนุนหรือพยายามสนับสนุนองค์กรก่อการร้ายอีก 4 กระทง
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่เข้มงวดของหน่วยงานด้านกฎหมายต่อการใช้ *คริปโตเคอร์เรนซี* ในการระดมทุนเพื่อก่อการร้าย โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานว่า ในช่วงหลัง มีการใช้ *สกุลเงินดิจิทัล* อย่างกว้างขวางมากขึ้นในกลุ่มหัวรุนแรงในยุโรปและตะวันออกกลาง ซึ่งยิ่งเน้นย้ำความจำเป็นในการควบคุมกระบวนการฟอกเงินและการใช้ *คริปโตเคอร์เรนซี* ในกิจกรรมผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด
*ความคิดเห็น*: กรณีนี้สะท้อนถึงความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นของรัฐบาลทั่วโลกในการรับมือกับการใช้ *คริปโตเคอร์เรนซี* ในกิจกรรมผิดกฎหมาย การติดตามเส้นทางเงินดิจิทัลในวงจรปิดถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคที่เงินไร้พรมแดนกำลังกลายเป็นช่องทางใหม่ของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ
ความคิดเห็น 0