แม้ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ จะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ แต่การดำเนินนโยบายอัดฉีดเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยประคับประคองตลาดหุ้นและ *ตลาดคริปโต* ให้เดินหน้าต่อได้ ท่ามกลางแนวโน้มจิตวิทยาการลงทุนที่กลับมาดีขึ้น ทำให้บิตคอยน์(BTC) และเหรียญหลักอื่น ๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง
มูลค่าตลาดรวมของ *สกุลเงินดิจิทัล* ปรับตัวขึ้น 8.5% เทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงสัญญาณเชิงบวกต่อทิศทางตลาดโดยรวม การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นในสินทรัพย์การเงินแบบดั้งเดิม ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนกลับมาแสวงหาผลตอบแทนในตลาดที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง *คริปโตเคอร์เรนซี*
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโตยังคงจับตาประเด็นเรื่องความเชื่อมโยงกับตลาดการเงินทั่วไป โดยเฉพาะโอกาสที่จะเกิดการ ‘*ดิแคปปลิง*’ (decoupling) หรือความเป็นไปได้ที่ราคาของสินทรัพย์คริปโตจะแยกตัวออกจากทิศทางตลาดแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ชี้ว่าราคาของบิตคอยน์และเหรียญอัลต์หลายสกุลยังคงเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับดัชนี S&P 500 ซึ่งสะท้อนภาพว่าตลาดคริปโตยังไม่ได้หลุดพ้นจากอิทธิพลของตลาดการเงินหลัก
ขณะที่ปัจจัยด้านมหภาค เช่น ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ชี้นำทิศทางตลาดหุ้น ซึ่ง *คริปโตเคอร์เรนซี* ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในฐานะ ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ ที่เคลื่อนไหวตามปัจจัยเศรษฐกิจเช่นเดียวกับการลงทุนในรูปแบบอื่น
*ความคิดเห็น* จากนักลงทุนในตลาดระบุว่า โอกาสในการเกิดการแยกตัวอย่างสมบูรณ์ของตลาดคริปโตจากระบบการเงินแบบเก่ายังคงต้องพึ่งพาพัฒนาการของนโยบายการเงินของ Fed และแนวทางการกำกับของประธานาธิบดีทรัมป์ในระยะข้างหน้า การแสดงตัวตนที่ชัดเจนและโครงสร้างตลาดที่เป็นเอกเทศของคริปโต ยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาว่า ‘วันนั้น’ จะมาถึงเมื่อใด
ความคิดเห็น 0