ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่เติบโตอย่างรวดเร็วกลายเป็นแหล่งรวมของมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ เนื่องจากไม่มีหน่วยงานกลางในการควบคุม และผู้ใช้หน้าใหม่ยังคงหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในรูปแบบการหลอกลวงที่พบได้บ่อยคือ ‘แพลตฟอร์มลงทุนคริปโตปลอม’ ซึ่งแสร้งทำตัวเสมือนเป็นเว็บเทรดหรือบริการลงทุนที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลอกล่อเงินจากนักลงทุนที่ยังขาดประสบการณ์
แพลตฟอร์มลักษณะนี้มักจะเผยตัวตนผ่านรูปแบบ ‘ข้อเสนอที่เกินจริง’ เช่น ผลตอบแทนที่สูงผิดปกติ รีวิวจากผู้ใช้งานที่ถูกจัดฉาก ทีมงานที่ไม่มีตัวตน รวมถึงเอกสารไวต์เปเปอร์ลึกลับซึ่งตรวจสอบที่มาไม่ได้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงเตือนว่า นักลงทุนควรเรียนรู้วิธีระบุสัญญาณเตือนเหล่านี้ ก่อนที่จะสร้างบัญชีหรือทำการโอนเงินเข้าไปยังแพลตฟอร์มใดๆ
หนึ่งในกลโกงที่พบได้บ่อยคือการโฆษณาผลกำไรที่ไม่สมจริง เช่น ข้อความแนว “คุณสามารถรับ 1 บิตคอยน์(BTC) ได้ภายในไม่กี่วัน” นับเป็น ‘สัญญาณหลอกลวง’ ที่ชัดเจน เนื่องจากแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือจะมุ่งเน้นการสร้างความไว้วางใจด้วยข้อมูลที่โปร่งใส ไม่ใช่คำสัญญาจอมปลอม นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ เพื่อพิจารณาว่าโครงสร้างรายได้นั้นเป็นไปได้หรือไม่
อีกหนึ่งจุดที่มักถูกใช้ในการหลอกลวงคือหน้า ‘ทีมงาน’ บนเว็บไซต์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ควรประกอบด้วยชื่อ รูปภาพ ประวัติการทำงานอย่างละเอียด และลิงก์ที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น บัญชี LinkedIn อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มหลอกลวงมักจะนำเสนอชื่อบุคคลที่ไม่มีตัวตน หรือใช้รูปภาพที่ขโมยมาจากที่อื่น โดยไม่มีลิงก์อ้างอิง หรือสร้างโซเชียลมีเดียปลอมขึ้นมา
เอกสาร ‘ไวต์เปเปอร์’ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยวัดความน่าเชื่อถือของโครงการ หากเป็นโปรเจกต์จริง เอกสารจะอธิบายโครงสร้างทางเทคนิค เป้าหมายในการแก้ไขปัญหา และแผนการในอนาคตอย่างชัดเจน ตรงกันข้ามกับมิจฉาชีพที่มักใช้ถ้อยคำเทคนิคหรูหรา แต่ไร้เนื้อหา พร้อมละเลยความเป็นจริง ผู้ใช้จึงควรใช้เวลาอ่านไวต์เปเปอร์อย่างละเอียด ตรวจสอบการลอกเลียน ความเป็นไปได้ และแผนโรดแมปเฉพาะที่ระบุไว้
ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ(FTC) ได้เปิดให้เข้าชมเว็บไซต์สำหรับติดตามการหลอกลวงในตลาดคริปโต โดยมีการจัดหมวดหมู่ตามชื่อบริษัท และประเภทการฉ้อโกง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเรียนรู้กรณีจากเหตุการณ์จริง พร้อมทั้งสามารถระบุแนวโน้มความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
ผู้เชี่ยวชาญในวงการต่างเน้นย้ำว่า เมื่อต้องเผชิญกับแพลตฟอร์มใหม่ๆ ไม่ควรเชื่อทุกอย่างในทันที แต่ควรเริ่มต้นจาก ‘ความสงสัยอย่างมีเหตุผล’ เพราะปัจจุบันมีโครงการและเว็บเทรดหน้าใหม่เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความประมาทเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่ความเสียหายที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้น เพื่อให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นไปอย่างปลอดภัย นักลงทุนควรยึดมั่นในขั้นตอนการตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่เพียงแค่เรื่องเงินทุน แต่รวมถึงข้อมูลส่วนตัว และการตัดสินใจทั้งหมดด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น 0