คอยน์เบส(COIN) ลุยซื้อกิจการต่อเนื่อง หลังปิดดีลดิริบิท(Deribit) มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์

ไบรอัน อาร์มสตรอง(Brian Armstrong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคอยน์เบส(COIN) ยืนยันว่าบริษัทจะเดินหน้ากลยุทธ์ ‘ควบรวมและซื้อกิจการ’ ต่อไป แม้เพิ่งประกาศดีลครั้งใหญ่ในการซื้อกิจการดิริบิท(Deribit) มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.23 ล้านล้านวอน) ไปเมื่อไม่นานมานี้

เมื่อวันที่ 14 อาร์มสตรองให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV ว่า “เรามองหาโอกาสในการควบรวมและซื้อกิจการอยู่เสมอ” พร้อมเสริมว่า “ด้วยสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน คอยน์เบสมีสินทรัพย์ทางการเงินที่เพียงพอและสามารถเปิดรับความเป็นไปได้ในหลายรูปแบบ”

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 คอยน์เบสประกาศว่าจะเข้าซื้อดิริบิท ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายออปชันคริปโตเคอร์เรนซี ด้วยข้อตกลงที่ประกอบด้วยเงินสด 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นของคอยน์เบสจำนวน 11 ล้านหุ้น โดยดีลนี้ถือเป็นหนึ่งในการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในวงการคริปโต และสะท้อนไปถึงการรุกตลาดอนุพันธ์ของคอยน์เบสอย่างจริงจัง

ทางอาร์มสตรองกล่าวเพิ่มเติมว่า “เราไม่ได้ซื้อกิจการเพียงเพราะมีโอกาสเท่านั้น แต่จะพิจารณาเฉพาะเมื่อเห็นว่าการควบรวมนั้นช่วยเร่งการเติบโตของคอยน์เบส” และชี้ว่าเป้าหมายหลักของคอยน์เบสคือ “บริษัทในต่างประเทศที่มีแนวคิดสอดคล้องกัน และสามารถส่งเสริมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงการขยายตลาดโลก”

เบื้องหลังกลยุทธ์นี้คือฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของคอยน์เบส โดยในรายงานทางการเงินไตรมาสแรกของปี บริษัทระบุว่ามีเงินสดในมือถึง 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14.45 ล้านล้านวอน) ซึ่งสนับสนุนความคล่องตัวในการดำเนินยุทธศาสตร์

ในประเด็นข่าวลือเกี่ยวกับการเข้าซื้อเซอร์เคิล(Circle) ผู้ผลิตเหรียญสเตเบิลคอยน์และพันธมิตรของคอยน์เบส อาร์มสตรองตอบชัดว่า “ยังไม่มีอะไรที่สามารถประกาศได้ในตอนนี้” ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ริปเปิล(XRP) เสนอวงเงินสูงสุดถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อเซอร์เคิลเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ทางเซอร์เคิลปฏิเสธข้อเสนอไป

คอยน์เบสยังได้รับแรงหนุนจากข่าวเชิงบวกล่าสุด โดยเมื่อวันที่ 19 บริษัทจะกลายเป็นบริษัทคริปโตแห่งแรกที่ถูกบรรจุเข้าในดัชนี S&P500 ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้กองทุนแบบพาสซีฟและนักลงทุนสถาบันสามารถเข้าถึงคอยน์เบสได้ง่ายยิ่งขึ้น

ผลจากกระแสเชิงบวกทำให้ราคาหุ้นของคอยน์เบส(COIN) พุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นราว 50% และเพียงแค่เดือนนี้ก็ทะยานกว่า 30% แล้ว โดยในช่วงหลังปิดตลาดวันที่ 14 หุ้น COIN ปิดที่ 263 ดอลลาร์สหรัฐ ความเคลื่อนไหวนี้อาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กลับคืนสู่วงการคริปโตอีกครั้งแล้วในปีนี้