อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ประธานเมสโตรมแคปิตอล คาดการณ์ว่า *บิตคอยน์(BTC)* อาจพุ่งแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 หากสหรัฐเดินหน้าควบคุมทุนผ่านมาตรการเก็บภาษีจากนักลงทุนต่างชาติ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เฮย์สเผยแพร่บทวิเคราะห์ผ่านเว็บไซต์ Substack โดยระบุว่าสหรัฐอาจเปลี่ยนนโยบายจากการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าไปสู่การเก็บภาษีจากชาวต่างชาติที่ถือครองสินทรัพย์ในประเทศ เช่น หุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะกลายเป็นแรงหนุนสำคัญต่อราคาของ *บิตคอยน์*
*ความคิดเห็น* เฮย์สมองว่า การเก็บภาษีจากสินทรัพย์ของชาวต่างชาติอาจเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าการควบคุมผ่านภาษีนำเข้าที่มีเป้าหมายเพื่อดึงแท่นการผลิตกลับสู่สหรัฐ เพราะนโยบายกำแพงภาษีนั้นกระทบต่อราคาสินค้าและห่วงโซ่อุปทาน สร้างแรงกดดันทางการเมืองจากผู้บริโภคในประเทศ
ตามการวิเคราะห์ของเฮย์ส หากสหรัฐเก็บภาษี 2% จากทรัพย์สินของชาวต่างชาติที่ถือครองในสหรัฐ มูลค่าประมาณ 33 ล้านล้านดอลลาร์ อาจทำให้รัฐบาลได้รับภาษีถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งมากพอจะสามารถยกเลิกภาษีเงินได้ของประชาชนถึง 90% ได้เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวอาจทำให้ตลาดทรัพย์สินสหรัฐไม่มั่นคง และหากนักลงทุนต่างชาติเริ่มถอนทุน เฟด(ธนาคารกลางสหรัฐ) อาจจำเป็นต้องกลับมาทำ ‘มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)’ เพื่อควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและพยุงราคาทรัพย์สิน
เฮย์สยังชี้ว่าท่ามกลางสภาวะการเงินที่เข้าสู่ยุคของการแยกส่วน(Financial Fragmentation) นักลงทุนต่างชาติอาจเบนเข็มสู่ *ทองคำ* หรือ *บิตคอยน์* ซึ่งถือเป็น ‘ทรัพย์สินไร้สัญชาติ’ โดยเฉพาะ *บิตคอยน์* ที่สามารถเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนแบบไม่ต้องผ่านตัวกลางหรือหน่วยงานใด สอดรับกับแนวโน้มใหม่ของภัยทางเศรษฐกิจ
*บิตคอยน์* ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ระดับ 102,000 ดอลลาร์ ลดลง 1.4% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ยังคงปรับขึ้น 3.2% ในช่วงสัปดาห์ และพุ่งถึง 20% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ความคิดเห็น 0