แบรนด์ยักษ์ใหญ่จับตาสินทรัพย์ดิจิทัล บล็อกเชน-ของสะสม NFT โตแรงสวนต้นทุนจริงพุ่ง

สินทรัพย์ดิจิทัลกำลังกลายเป็นตัวเลือกใหม่ที่ธุรกิจทั่วโลกหันมาจับตามอง ท่ามกลางต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากความผันผวนของห่วงโซ่อุปทานในระดับโลกและแรงกดดันจากนโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์ ตลาดดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนจึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งหลายแบรนด์เริ่มมองหาเพื่อสร้างรายได้และเชื่อมโยงกับผู้บริโภคในรูปแบบที่ต่างออกไป

ริดิมา คาน(Ridhima Kahn) รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Dapper Labs เปิดเผยกับ Cointelegraph ว่า “หลายแบรนด์กำลังประเมินวิธีสร้างรายได้และการสื่อสารกับแฟนใหม่ๆ” พร้อมระบุว่า แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง NBA, NFL และดิสนีย์ที่ร่วมมือกับบริษัทมาแล้ว ล้วนประสบความสำเร็จในตลาดของสะสมดิจิทัล ซึ่งขณะนี้กำลังยิ่งน่าสนใจขึ้นภายใต้ความไม่แน่นอนของต้นทุนสินค้าจริง

คานยกตัวอย่างถึง ‘คลิปเด็ด’ แบบซื้อขายได้ใน NBA แอปพลิเคชัน เช่น การดังค์ของเลอบรอน เจมส์ หรือการชู้ต 3 แต้มของสเตฟเฟน เคอร์รี ตลอดจน NFT ที่ออกโดย NFL All Day เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาสำคัญในการแข่งขัน ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการจัดเก็บและส่งมอบ ทำให้แฟนกีฬาสามารถสัมผัสประสบการณ์เชิงลึกได้มากขึ้นทั้งในและนอกสนาม

“เมื่อเวลาที่ผู้คนอยู่บนโลกดิจิทัลเพิ่มขึ้น แบรนด์ต้องเข้าใจว่าแฟนใช้เวลาอยู่ที่ไหน และต้องไปพบพวกเขาที่นั่น เพื่อสร้างการสื่อสารที่ไม่จำกัดแค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง” คานกล่าว พร้อมชี้ว่า วิธีนี้ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงฐานแฟนจากทั่วโลกได้โดยไม่ต้องพึ่งพาช่องทางการขายแบบดั้งเดิม

‘ความคิดเห็น’: การพัฒนาเช่นนี้ถือว่าสอดรับกับแนวโน้มที่ความภักดีของแฟนคลับกลายเป็นเครือข่ายที่กระจายตัวและมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่การค้าระหว่างประเทศเผชิญข้อจำกัดจากภาษี ช่องทางดิจิทัลจึงเป็นเครื่องมือการตลาดที่รวดเร็วและเข้าถึงง่ายมากขึ้น

ในไตรมาสล่าสุด NBA ท็อปช็อต(NBA Top Shot) และ NFL ออลเดย์ มียอดซื้อขาย 5.6 ล้านดอลลาร์ (ราว 81.8 ล้านบาท) และ 2.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 36.5 ล้านบาท) ตามลำดับ โดยภาพรวมของการซื้อขาย NFT เพิ่มขึ้นราว 7% จากไตรมาสก่อนหน้า

ความสำเร็จนี้ได้รับแรงหนุนจากการพัฒนา ‘ประสบการณ์ผู้ใช้งาน’ ให้เข้าถึงง่ายขึ้น ซึ่งคานกล่าวว่า “บริษัทบล็อกเชนตระหนักว่าการเติบโตจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน” และย้ำว่าเทคโนโลยีออน–ออฟ แรมป์ที่พัฒนาแล้ว ยังช่วยลดช่องว่างด้านกฎระเบียบ ซึ่งเอื้อต่อการยอมรับระบบบล็อกเชนในวงกว้างยิ่งขึ้น

นอกเหนือจาก NFT แล้ว ความนิยมของสินทรัพย์ดิจิทัลยังแผ่ขยายไปถึงของสะสมดิจิทัลในรูปแบบใหม่ๆ และสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยบน ‘โฟลว์’(Flow) บล็อกเชนในขณะนี้ แพลตฟอร์มอย่าง ‘คิตตี้พันช์’(KittyPunch) กำลังเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินที่ล็อกไว้ (TVL) พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 44.4 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 647 ล้านบาท

‘ความคิดเห็น’: ความหลากหลายของการใช้งานบล็อกเชนที่ขยายเกินกว่าการเป็นเพียงโครงสร้างหลังบ้านของ NFT ได้แสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงแนวคิดการบริโภคจากโลกจริงมาสู่โลกดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม