บิตคอยน์(BTC) ยังคงไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 105,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.3 ล้านบาท) ได้อีกครั้งนับตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ส่งผลให้เกิดคำถามในตลาดว่าแรงขาขึ้นของบิตคอยน์นั้นเริ่มชะลอตัวลงหรือไม่ แม้บิตคอยน์จะเคยขยับขึ้นไปแตะระดับ 104,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.18 ล้านบาท) แต่แรงซื้อในตลาดฟิวเจอร์ส โดยเฉพาะในตำแหน่ง Long ที่มีการใช้เลเวอเรจกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความระมัดระวังของนักลงทุน
อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความระมัดระวังนี้คือ *ส่วนต่างราคาฟิวเจอร์ส (Future Premium)* ของบิตคอยน์ที่ลดลง ซึ่งแปลว่าแรงซื้อในระยะยาวเริ่มอ่อนตัวลง สถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในสหรัฐ โดยเฉพาะนโยบายอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และดัชนีเงินเฟ้อที่ยังคงเป็นปัจจัยกดดันอยู่ ความเห็นจากนักวิเคราะห์หลายรายระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญยังชี้ไปในทาง ‘ระมัดระวัง’ มากกว่าที่จะมองในแง่บวก
แม้จะมีแรงกดดันระยะสั้น การไหลเข้าของเงินลงทุนจาก *นักลงทุนสถาบัน* ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จุดที่น่าสนใจคือระดับ 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.6 ล้านบาท) ซึ่งยังคงทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และแสดงให้เห็นว่า *ความเชื่อมั่นในตลาดยังไม่สลายหายไป* ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่สนับสนุนแนวโน้มการเติบโตของบิตคอยน์ในระยะกลางถึงยาว
*ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์บางรายมองว่า ความคาดหวังต่อการกลับมาดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์อาจเป็นปัจจัยเสริมต่อแรงซื้อในภาคสถาบัน โดยเฉพาะเมื่อทรัมป์เพิ่งกล่าวว่าเขาเห็น *สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ของสหรัฐ* และให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรกับสินทรัพย์คริปโต ความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอาจกระตุ้นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในตลาดได้
ขณะนี้ดูเหมือนว่าบิตคอยน์กำลังป้องกันแนวรับ 100,000 ดอลลาร์ไว้ได้ และเข้าสู่ช่วงปรับฐานในกรอบจำกัด อย่างไรก็ตาม *หากต้องการกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน* นักวิเคราะห์เชื่อว่าจะต้องมีทั้งการทะลุแนวต้านสำคัญและสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้อต่อความเสี่ยงอย่างพร้อมเพรียง
ความคิดเห็น 0