ริปเปิล(XRP) อาจแตะ 1,000 ดอลลาร์ในอนาคต หลัง G20 หนุนใช้บล็อกเชนปฏิวัติการโอนเงินข้ามประเทศ

เครือข่ายของริปเปิล(XRP) และเทคโนโลยีบล็อกเชนถูกคาดการณ์ว่าจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายของกลุ่ม G20 ด้านการชำระเงินข้ามพรมแดนให้สำเร็จภายในปี 2030 ตามรายงานล่าสุดของคณะกรรมการระบบชำระเงินแห่งสหรัฐ (Faster Payments Council หรือ FPC) โซลูชันด้านการชำระเงินของริปเปิลอาจมีส่วนสนับสนุนการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการโอนเงินระหว่างประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายของ G20

ตลาดการโอนเงินระหว่างประเทศในปัจจุบันมีมูลค่ารวมถึง 34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.8 ล้านล้านล้านวอนเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับ *เครื่องมือชำระเงินที่รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ และต้นทุนต่ำ* G20 มองว่าสิ่งนี้คือรากฐานของพลังขับเคลื่อนด้านการค้า, การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาโดยรวม จึงได้เร่งพัฒนาระบบโอนเงินให้เข้าถึงได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพ และประหยัดมากยิ่งขึ้น

สำหรับเป้าหมายที่ G20 วางไว้ ได้แก่ การลดต้นทุนการโอนเงินให้ต่ำกว่า 1% และให้ 75% ของธุรกรรมสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยกำหนดยุทธศาสตร์รองรับทั้งในภาคการค้าปลีก การค้าส่ง และธุรกรรมโอนเงินต่างประเทศ ภายในปี 2027 และ 2030 ตามลำดับ

รายงานของ FPC ยังแนะนำให้ผู้ให้บริการระบบการชำระเงินภายในประเทศหันมาใช้มาตรฐาน ISO 20022 และสร้างระบบที่สามารถ ‘ทำงานร่วมกันได้’ (interoperability) พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ (DLT) หรือเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ โดยระบุชื่อ *ริปเปิล* และ *สเตลลาร์* เป็นสององค์กรหลักที่จะเป็น *ตัวเร่งสำคัญ* ในการเปลี่ยนแปลงระบบโอนเงินระหว่างประเทศในอนาคต

แพลตฟอร์มของริปเปิล ซึ่งรวมถึงเครือข่าย *ริปเปิลเน็ต* และการใช้ XRP เป็นสื่อกลางการชำระเงิน ยังคงได้รับความสนใจในฐานะ *โซลูชันที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลก* โดยเฉพาะ ISO 20022 และการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ช่วยให้การโอนเงินเป็นไปอย่างปลอดภัยและโปร่งใส ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่าคุณสมบัติของระบบนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมการชำระเงินทั่วโลก

*ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์คาดว่า หากมีการนำโซลูชันของริปเปิลไปใช้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ราคาของริปเปิล(XRP) ก็อาจปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเมินว่าภายในปี 2025 ราคาอาจพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 10–20 ดอลลาร์ และมีโอกาสแตะระดับ 100 ดอลลาร์ได้ในช่วงต้นปี 2026 และยิ่งไปกว่านั้น หากโครงสร้างเทคโนโลยีและเครือข่ายของ XRP ขยายตัวต่อเนื่อง ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะพุ่งแตะ 1,000 ดอลลาร์ในระยะยาว