ยาน เลอกุน(Yann LeCun) หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ด้านปัญญาประดิษฐ์(AI) ของเมตา(Meta) แสดงความเห็นว่าระบบโมเดลภาษาขนาดใหญ่(LLM) ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถพัฒนาสติปัญญาระดับมนุษย์ได้ พร้อมประกาศว่าเมตากำลังเตรียมเปิดตัวโมเดลใหม่ที่อาจแก้ไขข้อจำกัดสำคัญเหล่านี้
เลอกุนกล่าวระหว่างการบรรยายในงาน AI Action Summit ที่ปารีสเมื่อต้นปีนี้ว่า *พฤติกรรมที่ชาญฉลาดจำเป็นต้องมีองค์ประกอบหลัก 4 ประการ* ได้แก่ *ความเข้าใจต่อโลกทางกายภาพ, ความจำที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง, ความสามารถในการให้เหตุผล* และ *ความสามารถในการวางแผนเพื่อดำเนินพฤติกรรมที่ซับซ้อน โดยเฉพาะการวางแผนแบบมีลำดับชั้น*
เขายังระบุว่า LLM ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันยังไม่สามารถเข้าเงื่อนไขเหล่านี้ได้ เนื่องจากยังขาด *โครงสร้างการเรียนรู้ที่สามารถรองรับความคิดเชิงซับซ้อนแบบมนุษย์* ได้อย่างแท้จริง โดยเขาชี้ว่า *แนวทางการฝึกฝนด้วยข้อมูลข้อความเพียงอย่างเดียวมีข้อจำกัดสำคัญ* ในแง่การเข้าใจโลกและคิดวิเคราะห์ในระดับลึก
ขณะเดียวกัน เลอกุนยังวิจารณ์ว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ รวมถึงผู้พัฒนา AI หลายราย ยังคงเลือกที่จะแก้ปัญหาโดยการ ‘เย็บปะติดปะต่อฟีเจอร์’ เข้ากับโมเดลเดิมมากกว่าจะเปลี่ยนไประบบโครงสร้างใหม่โดยสิ้นเชิง ซึ่งเขามองว่าเป็นแนวทางที่ไม่สามารถรองรับการแข่งขันในระยะยาวได้
*ความคิดเห็น*: ท่าทีของเลอกุนสะท้อนมุมมองที่แตกต่างจากกระแสในอุตสาหกรรมที่ยังคงเน้นการขยายความสามารถจากฐานเดิมของ LLM อย่างไรก็ตาม หากโมเดลใหม่ของเมตาสามารถแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในด้านการเรียนรู้และการให้เหตุผลแบบพลวัตได้ ก็อาจเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ที่แท้จริงของวงการ AI
ความคืบหน้าของ *โมเดล AI รุ่นใหม่ภายใต้การพัฒนาโดยเมตา* จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องจับตาต่อไป ว่าจะสามารถตอบโจทย์เรื่อง *สติปัญญาระดับมนุษย์* ที่วงการเฝ้ารอได้หรือไม่
ความคิดเห็น 0