ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทสแตรเทจี เปิดเผยระหว่างการประชุม Bitcoin 2025 ว่าการซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* จะยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากกระแสความต้องการจากภาคธุรกิจที่กำลังพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว คำกล่าวของเขากลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการคริปโต
ขณะเดียวกัน ทรัมป์มีเดียประกาศแผนซื้อ *บิตคอยน์* มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,850 พันล้านวอน) ส่วนผู้นำอุตสาหกรรมรายอื่นอย่าง *เทเธอร์*, *ซอฟต์แบงก์* และ *แจ็ค มัลเลอร์ส* ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ *สไตรก์* ได้ร่วมก่อตั้งบริษัทจดทะเบียนชื่อว่า ‘TwentyOne’ ที่มีแผนถือครอง *บิตคอยน์* จำนวน 42,000 BTC
เซย์เลอร์ยังระบุว่า “บริษัททั่วโลก เช่น จากอังกฤษ เกาหลีใต้ และฮ่องกง ต่างนำกลยุทธ์การลงทุน *บิตคอยน์* ของสแตรเทจีไปเป็นต้นแบบ” พร้อมเสริมว่า “*บิตคอยน์* คือแนวคิดที่ตอบโจทย์ยุคสมัย ไม่มีพลังใดที่จะหยุดยั้งได้” — *ความคิดเห็น*
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดตั้งคลังสำรอง *บิตคอยน์* เชิงยุทธศาสตร์ โดยรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจจะไม่ขาย *บิตคอยน์* จำนวน 200,000 BTC ที่ถืออยู่ ขณะที่รองประธานาธิบดีเบนซ์ ระบุว่า *บิตคอยน์* เป็น “เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การเซ็นเซอร์ และอำนาจของข้าราชการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง”
อย่างไรก็ตาม *ไมโครซอฟท์(MSFT)* ปฏิเสธการแปลงเงินสดสำรองส่วนหนึ่งไปเป็น *บิตคอยน์* โดยเซย์เลอร์แสดงความเห็นว่า “*ไมโครซอฟท์* ไม่ควรพลาดคลื่นแห่งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีลูกถัดไป”
ความคิดเห็น 0