ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคุ้มครองการเงินผู้บริโภคแห่งสหรัฐฯ (CFPB) เพิ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งสร้างความกังวลเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภคด้านการเงิน โดยเฉพาะนักลงทุนใน *คริปโตเคอร์เรนซี* ที่อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงโดยปราศจากการคุ้มครองที่เพียงพอ
เมื่อวันที่ 10 (เวลาท้องถิ่น) คารา ปีเตอร์สัน(Cara Petersen) รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบังคับใช้ของ CFPB ได้ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมฝากจดหมายวิจารณ์อย่างรุนแรงต่อรัฐบาลทรัมป์ โดยเฉพาะการปฏิรูปองค์กรที่ดำเนินการโดยกรมประสิทธิภาพรัฐบาล ซึ่งเธอระบุว่าเป็นการ ‘ลดทอนโดยไร้แบบแผน’ และนำไปสู่การอ่อนแอของระบบคุ้มครองผู้บริโภคอย่างรุนแรง
แม้สมาชิกพรรครีพับลิกันและทำเนียบขาวจะอ้างว่าการปรับโครงสร้าง CFPB มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่กระทบต่อการคุ้มครองผู้บริโภค แต่หลายฝ่ายแสดงความเห็นว่าข้ออ้างดังกล่าวเป็นเพียง ‘ฉากหน้า’ ของเจตนาทางการเมืองที่มุ่งลดบทบาทของหน่วยงานนี้ เพื่อให้กฎระเบียบคลายตัวลง
วงการ *คริปโต* เองก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นกับ CFPB ก่อนหน้านี้ ซีอีโอของคอยน์เบส(Coinbase) ไบรอัน อาร์มสตรอง ได้ออกมาตำหนิหน่วยงานนี้ว่า “ขัดต่อรัฐธรรมนูญ” ซึ่งความคิดเห็นดังกล่าวมีนัยยะว่าอุตสาหกรรม *คริปโตเคอร์เรนซี* กำลังพยายามสร้างพื้นที่ต่อรองกับหน่วยงานกำกับดูแลในวอชิงตัน เพื่อผลักดันกรอบกฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจของตนเอง
อย่างไรก็ดี ช่องว่างของ CFPB ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ใช้งานทั่วไป ตัวอย่างเช่น เมื่อบัญชีถูกระงับโดยไม่มีการชี้แจง หรือแพลตฟอร์มปิดการติดต่อ ผู้บริโภคกลับไม่มีหน่วยงานใดให้คำตอบหรือเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้เกิดภาวะ ‘ไร้การคุ้มครอง’ อย่างแท้จริงในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง เช่น ตลาด *สกุลเงินดิจิทัล*
ในขณะที่ตลาด *คริปโต* กำลังเติบโตต่อเนื่อง การขาดแนวทางการคุ้มครองที่เข้มแข็งจึงกลายเป็น ‘ความเสี่ยงระบบ’ ที่ไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป
ความคิดเห็น 0