รายงานชี้ 55 ล้านคนอเมริกันถือครองคริปโต ชี้คริปโตกลายเป็นเครื่องมือการเงินของคนทั่วไป

การใช้งานคริปโตในหมู่ประชาชนสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีความหลากหลายมากขึ้น จากรายงานฉบับล่าสุดโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 'เนชันแนล คริปโต อัลไลแอนซ์' (National Crypto Alliance: NCA) พบว่า ไม่ใช่แค่ในแวดวงการเงินหรือกลุ่มนักลงทุนเท่านั้น แต่ชาวอเมริกันทั่วไป ตั้งแต่ช่างก่อสร้างในฝั่งมิดเวสต์ ศิลปินในชิคาโก จนถึงคุณยายในแคนซัส ต่างก็เริ่มใช้คริปโตอย่างจริงจังในชีวิตประจำวัน

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) NCA เผยแพร่รายงาน 'สถานะคริปโตในปี 2025' ซึ่งอ้างอิงจากแบบสำรวจของ Harris Poll ที่สอบถามชาวอเมริกันจำนวน 54,000 คน โดยในจำนวนนั้น เป็นผู้ถือครองคริปโตจำนวน 10,000 คน ผลการสำรวจพบว่า ประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ราว 21% หรือประมาณ 55 ล้านคน ถือครองคริปโต และจำนวนไม่น้อยใช้มันเพื่อการซื้อสินค้า การโอนเงิน และการออม ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว

การใช้งานคริปโตในบริบทที่หลากหลาย ทำให้ภาพจำของอุตสาหกรรมนี้เริ่มเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน และเปิดช่องใหม่ให้กับนโยบายสาธารณะในอนาคต *ความคิดเห็น* บ่งชี้ว่า คริปโตไม่ได้จำกัดอยู่ในมือของเทรดเดอร์หรือนักเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น ‘เทคโนโลยีแห่งมหาชน’

อาลี เทเกอร์ (Ali Tager) ผู้อำนวยการบริหารของ NCA ระบุในเวที ‘บิตคอยน์ 2025’ ที่นครลาสเวกัสว่า “คริปโตคือเทคโนโลยีที่กำลังถูกนิยามใหม่ มันไม่ใช่เรื่องของกลุ่มคนรวยเพียงไม่กี่คนอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนธรรมดาสามารถทำธุรกรรมได้สะดวกขึ้น” เขาเน้นย้ำว่าการใช้งานในชีวิตจริงคือแรงผลักดันหลักของการเติบโตในปัจจุบัน

ผลสำรวจระบุว่า 39% ของผู้ถือครองคริปโตเคยใช้มันเพื่vอชำระค่าสินค้าหรือบริการออนไลน์ และในกลุ่มนั้น 96% ใช้งานอย่างน้อยปีละครั้ง ขณะที่ 22% ชำระเงินด้วยคริปโตทุกสัปดาห์ อีก 31% กล่าวว่าเคยใช้คริปโตเพื่อโอนเงินให้คนในครอบครัว แทนวิธีการส่งเงินแบบดั้งเดิม

สำหรับเหตุผลที่พวกเขาเริ่มใช้คริปโต 60% เปิดเผยว่าเป็นเพราะ ‘จุดประสงค์ด้านการลงทุน’ ขณะที่ 50% มาจากความสนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชน และ 27% ใช้เพื่อ ‘ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน’ เช่นการจับจ่ายใช้สอย *ความคิดเห็น* นี่คือสัญญาณว่า คริปโตกำลังเปลี่ยนผ่านจากสินทรัพย์เสี่ยงไปสู่เครื่องมือทางการเงินที่จับต้องได้ในชีวิตจริง

รายงานยังสรุปด้วยว่า คริปโตไม่ใช่เทคโนโลยีของคนเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มทางการเงินที่เสริมสร้าง ‘ความครอบคลุมทางการเงิน’ ได้จริง โดยกลุ่มผู้ใช้งานครอบคลุมตั้งแต่นักพัฒนา ผู้ประกอบการ ศิลปิน จนถึงเจ้าหน้าที่ในภาครัฐ ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับอย่างกว้างขวาง

ผลการศึกษานี้ยังเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า สำหรับคนที่อยู่นอกระบบการเงินแบบดั้งเดิม คริปโตกลายเป็น ‘ทางเลือกที่มีอยู่จริง’ และอาจมีบทบาทชี้นำในการออกนโยบายและขยายอุตสาหกรรมในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ