Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ริปเปิล(XRP) จ่อปิดฉากศึกกฎหมายกับ SEC เสนอปรับลดโทษเหลือ 50 ล้านดอลลาร์

ริปเปิล(XRP)และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) กำลังเดินหน้าสู่บทสรุปของการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยืดเยื้อมานาน โดยทั้งสองฝ่ายได้ยื่นคำร้องร่วมต่อศาล เพื่อขอให้พิจารณาลดโทษปรับและยกเลิกข้อจำกัดในการขายโทเคน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ อาจเป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของกรณีศึกษาด้านการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่สำคัญในสหรัฐฯ

ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในเอกสารคำร้อง ริปเปิลเสนอให้ศาลลดค่าปรับจาก *125 ล้านดอลลาร์* เหลือเพียง *50 ล้านดอลลาร์* หรือราว *695 พันล้านวอน* พร้อมขอให้คืนเงินอีก *75 ล้านดอลลาร์* ให้แก่บริษัท ขณะที่ SEC ก็ร่วมเห็นด้วยกับการสิ้นสุดข้อพิพาทล่วงหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึง ‘สัญญาณแห่งการประนีประนอม’ ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในวงการ

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่พอสมควร ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง บิล มอร์แกน(Bill Morgan) เตือนว่าศาลอาจไม่เห็นด้วยกับคำร้องดังกล่าว หากไม่มี ‘เหตุผลพิเศษ’ ที่ชัดเจน โดยเขาย้ำว่า ผู้พิพากษาโทเรสเคยปฏิเสธคำขอลดโทษของริปเปิลเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนคำขอดังกล่าว

ริปเปิลยังแสดงเจตนารมณ์ในคำร้องที่ยื่นต่อศาลว่า ต้องการให้ยกเลิกข้อจำกัดในการขาย XRP ให้แก่สถาบันการเงินบางแห่ง ซึ่งเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 และยังมีผลจนถึงปัจจุบัน การขอปลดล็อกดังกล่าวอาจสะท้อนถึงความพยายามยุติข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการขายสินทรัพย์ดิจิทัล

ทิศทางของกรณีนี้จะชัดเจนขึ้นในวันที่ *16 มิถุนายน* (เวลาสหรัฐฯ) เมื่อ SEC จะต้องยื่นรายงานต่อศาลอุทธรณ์รอบที่ 2 เกี่ยวกับจุดยืนของตนในสถานการณ์ล่าสุด หากศาลเห็นชอบกับคำขอแก้ไข คาดว่าคดีจะเข้าสู่กระบวนการยุติเชิงสมบูรณ์ ซึ่งอาจส่งผลเชิงบวกทั้งต่อสถานะทางกฎหมายของ XRP และราคาของโทเคนในตลาด แต่หากศาลปฏิเสธ คดีอาจยังดำเนินต่อไปตามคำตัดสินเดิม หรือการเจรจาทั้งหมดอาจพังทลาย

ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญและคนในวงการ การดำเนินการของริปเปิลในครั้งนี้อาจกลายเป็น ‘ต้นแบบทางกฎหมาย’ สำหรับบริษัทคริปโตอื่น ๆ ที่กำลังต่อกรกับ SEC โดยเฉพาะในประเด็นของโทเคนที่อาจเข้าข่ายหลักทรัพย์ หากข้อเสนอนี้ผ่านไปได้ ก็มีแนวโน้มว่าบริษัทจำนวนมากจะหันมาใช้แนวทางการเจรจาแบบเดียวกัน และขับเคลื่อนการกำหนดเกณฑ์กำกับดูแลในสหรัฐฯ ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น

ในท้ายที่สุด คำร้องขอปรับลดบทลงโทษและเปิดทางสู่ข้อตกลงครั้งนี้ อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางของวงการคริปโตสหรัฐฯ ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุน ว่าความสมดุลระหว่าง ‘นวัตกรรม’ และ ‘กฎเกณฑ์’ จะเข้าใกล้จุดที่เสถียรมากขึ้น

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1