วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบ 'กฎหมาย GENIUS' เพื่อเพิ่มความชัดเจนด้านกฎระเบียบสำหรับ stablecoin ที่มีพื้นฐานจากดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคการเมือง ขณะนี้กฎหมายกำลังรอการลงมติในสภาผู้แทนราษฎร และคาดว่าจะเสร็จสิ้นขั้นตอนการออกกฎหมายด้วยการลงนามของประธานาธิบดีทรัมป์ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มุ่งหวังให้ stablecoin มีบทบาทมากขึ้นและเป็นแรงขับเคลื่อนระยะยาวต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 17 (เวลาท้องถิ่น) วุฒิสภาของสหรัฐฯ ลงมติผ่าน ‘กฎหมาย GENIUS’ หรือชื่อเต็มว่า ‘กฎหมายแนวทางแห่งชาติสำหรับนวัตกรรม stablecoin ของสหรัฐฯ’ ด้วยคะแนนเสียง 68 ต่อ 30 โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขัน เนื่องจากมองว่า *คริปโตเคอร์เรนซี* และสินทรัพย์ดิจิทัลคือกลไกสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
วุฒิสมาชิกทิม สก็อตต์ จากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า “ตลาด stablecoin ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมาเป็นเวลานาน แต่กฎหมายฉบับนี้จะช่วยสร้างความชัดเจนทางกฎหมายได้ในที่สุด” พร้อมเสริมว่า “นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าความร่วมมือระหว่างพรรคยังสามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีความหมายได้”
ขณะที่รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนท์ ให้ความเห็นว่า “กฎหมาย GENIUS เป็นนโยบายที่ทุกฝ่าย—ทั้งภาคเอกชน ผู้บริโภค และรัฐบาล—จะได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน” เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า การขยายตัวของ stablecoin อาจช่วยเพิ่มความต้องการพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารหนี้ของประเทศ โดยประเมินว่าตลาด stablecoin อาจเติบโตถึง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 5,143 ล้านล้านวอน ภายในปี 2030
ภาคการเงินกระแสหลักต่างก็ร่วมหนุนการเคลื่อนไหวนี้ ล่าสุด เจพีมอร์แกน(JPM) ได้เปิดตัว *stablecoin* ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐของตนเองในชื่อ ‘JPMD’ บน *เบส(Base)* ซึ่งเป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 2 บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) สะท้อนถึงแนวโน้มการขยายโครงสร้างพื้นฐานของ stablecoin และการเข้าสู่ระบบการเงินอย่างเป็นทางการ
การผ่านร่างกฎหมาย GENIUS จึงถูกมองว่าไม่ใช่เพียงกรอบกำกับดูแลเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการเปลี่ยนผ่านเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในการเป็นผู้นำยุคเงินดิจิทัล โดยหากสามารถผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนฯ ได้สำเร็จก็อาจส่งผลให้ตลาดให้ความสนใจต่อ stablecoin มากยิ่งขึ้นอีกในอนาคต
ความคิดเห็น 0