บิตคอยน์(BTC) ยังคงต้องรักษาระดับราคาบริเวณ ‘102,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 1.41 ล้านบาท) ให้ได้อย่างมั่นคง หากต้องการเดินหน้าต่อในแนวโน้มขาขึ้น ตามการวิเคราะห์ล่าสุด ท่ามกลางความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจระดับโลก หากราคาหลุดจากระดับสนับสนุนสำคัญนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดแรงขายเพิ่มเติมในระยะสั้น
ในการรายงานเมื่อวันที่ 25 ของบิทฟิเนกซ์(Bitfinex) แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ระบุว่า หากบิตคอยน์สามารถยืนเหนือช่วงราคา 102,000-103,000 ดอลลาร์ (ราว 1.41–1.43 ล้านบาท) ได้อย่างต่อเนื่อง อาจถือเป็นสัญญาณว่า ‘ตลาดสามารถดูดซับแรงขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ’ อย่างไรก็ตาม รายงานยังเตือนว่า ความเสี่ยงด้านลบ (‘downside risk’) ยังคงมีอยู่ โดยความตึงเครียดระหว่าง ‘อิสราเอลและอิหร่าน’ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาบิตคอยน์ในระยะสั้น
บิทฟิเนกซ์กล่าวเพิ่มเติมว่า "สภาพแวดล้อมของตลาด ณ เวลานี้ชัดเจนว่าอยู่ในโหมด ‘เสี่ยงสูง-ผลตอบแทนสูง’ และหากความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมา ก็อาจจุดชนวนให้เกิดคลื่นขาขึ้นอีกระลอก"
ในประเด็นเดียวกัน แมทธิว ไฮแลนด์(Matthew Hyland) เทรดเดอร์คริปโตชื่อดัง ได้ให้ความเห็นว่า แม้ราคาบิตคอยน์จะยังเคลื่อนไหวไม่แน่นอนในระยะสั้น แต่ภาพรวมของแนวโน้มยังคงเป็น ‘บวก’ พร้อมย้ำถึงการมองโลกในแง่ดี
หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ว่าบิตคอยน์อาจทดสอบระดับราคาสูงสุดเดิม ที่ 111,940 ดอลลาร์ (ราว 1.55 ล้านบาท) อีกครั้ง แต่ความหวังดังกล่าวกลับถูกสะเทือนอย่างรุนแรงหลังจากที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ทั่วอิหร่าน ส่งผลให้ตลาดคริปโตปั่นป่วนหนัก โดยราคาบิตคอยน์ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วจาก 106,042 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.47 ล้านบาท) เหลือ 103,053 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.43 ล้านบาท) ภายในเวลาเพียง 90 นาที คิดเป็นการร่วงลงประมาณ 2.8%
อย่างไรก็ตาม ราคาบิตคอยน์กลับขึ้นมาเล็กน้อยในเวลาต่อมา และมีการซื้อขายล่าสุดที่ราว 104,790 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.45 ล้านบาท)
สถานการณ์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความ ‘อ่อนไหว’ ของบิตคอยน์ต่อปัจจัยภายนอกในระดับโลก และจากแนวโน้มดังกล่าว ‘ระดับแนวรับ’ ที่กล่าวถึงอาจกลายเป็น ‘จุดชี้เป็นชี้ตาย’ สำหรับการพุ่งขึ้นต่อในระยะถัดไป ความสามารถของบิตคอยน์ในการรักษาระดับราคาจะถูกจับตาจากนักลงทุนทั่วโลกอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0