เมื่อวันที่ 18 (เวลาท้องถิ่น) สี่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีรวมมูลค่ากว่า 844 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.17 หมื่นล้านบาท) โดยบริษัทเหล่านี้กำลังเร่งรุกเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* เพื่อเป็นกลยุทธ์หลักในการบริหารพอร์ตลงทุน ท่ามกลางแนวโน้ม *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่แสดงท่าทีสนับสนุนคริปโตฯ อย่างชัดเจน
ในบรรดาบริษัททั้งสี่ บริษัทที่มีแผนการระดมทุนใหญ่ที่สุดคือ DDC เอ็นเตอร์ไพรส์(DDC Enterprise) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในฮ่องกง โดยเปิดเผยว่าได้ทำข้อตกลงการลงทุนจำนวน 3 รายการ รวมมูลค่า 528 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,339 ล้านบาท) เพื่อซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* โดยเฉพาะ รายละเอียดประกอบด้วยการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ 300 ล้านดอลลาร์, เงินกู้เครดิต 200 ล้านดอลลาร์ และการระดมทุนแบบถือหุ้นอีก 26 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนในรอบนี้รวมถึงบริษัทร่วมทุนจาก *แอนสัน ฟันด์* ในดัลลัส และ *บริษัทเกมคริปโตฯ แอนิโมกา แบรนด์ส(Animoca Brands)* ที่เข้ามาผ่านทางบริษัทร่วมทุนของตนเอง จุดที่น่าสนใจคือ DDC ได้แสดงเจตจำนงอย่างเป็นทางการว่า ตั้งเป้าจะเป็น "บริษัทมหาชนที่ถือครองบิตคอยน์มูลค่ามากที่สุดในโลก" ทั้งนี้ DDC ได้เริ่มเข้าซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม โดยแลกหุ้นของบริษัทจำนวนประมาณ 255,000 หุ้น เพื่อแลกกับบิตคอยน์ 21 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.28 ล้านดอลลาร์ (ราว 317 ล้านบาท)
บริษัทตั้งเป้าจะเข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 5,000 เหรียญภายใน 3 ปีข้างหน้า และเชื่อมั่นว่าการระดมทุนในครั้งนี้เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมาย
ในขณะเดียวกัน *โฟลด์ โฮลดิงส์(Fold Holdings)* ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการเงินบิตคอยน์รายแรกของสหรัฐฯ ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ก็ได้ลงนามในข้อตกลงการลงทุนผ่านการถือหุ้นมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,475 ล้านบาท) ในวันเดียวกัน โดยบริษัทมีแผนนำเงินส่วนใหญ่ไปเพิ่มการถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* และระบุว่า เห็นสัญญาณชัดเจนของการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันในตลาดคริปโต
กระแสความสนใจของบริษัทในสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังกลับมาอีกครั้ง หนุนให้การยอมรับของคริปโตในระบบการเงินดั้งเดิมเดินหน้าเร็วขึ้น ‘ความคิดเห็น’ จากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ท่าทีล่าสุดของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่ยอมรับเงินบริจาคเป็น *บิตคอยน์(BTC)* และส่งสัญญาณผ่อนคลายกฎกำกับดูแลในอนาคต อาจกลายเป็นตัวเร่งให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์หันมาลงทุนในคริปโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลบวกทั้งต่อราคาระยะสั้นและมูลค่าตลาดในระยะยาว
ความคิดเห็น 0