ออสเตรเลียกำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญของการ *ปรับโครงสร้างกฎระเบียบและระบบภาษีคริปโตเคอร์เรนซี* โดยเฉพาะประเด็นการรับรอง *บิตคอยน์(BTC)* ให้เป็น *เงินสกุลอย่างเป็นทางการของประเทศ* ซึ่งจะมีการพิจารณาโดยศาลในเดือนพฤษภาคม 2025 นักวิเคราะห์มองว่าผลของคดีนี้อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในประเทศ
ณ ปัจจุบัน กรมสรรพากรออสเตรเลีย (ATO) ยังจัดกลุ่มคริปโตเคอร์เรนซีเป็น 'สินทรัพย์' ทำให้เมื่อมีการขายจะต้องเสียภาษีกำไรจากการขาย (Capital Gains Tax) ขณะที่รายได้จากการขุด, การวางเดิมพัน และการใช้จ่ายผ่านคริปโตยังถือเป็น *รายได้* และต้องเสียภาษีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การพิจารณาคดีในเดือนพฤษภาคมปีหน้าอาจเปิดทางให้มีการจัดประเภท *บิตคอยน์เป็นเงินสกุลของประเทศ* ได้ หากศาลสนับสนุนแนวทางนี้ นักลงทุนรายย่อยอาจได้รับการยกเว้นภาษีกำไรจากการขายโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ทางกฎหมายและภาษีครั้งสำคัญสำหรับตลาดคริปโตในออสเตรเลีย โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าคำตัดสินดังกล่าวอาจกลายเป็น *บรรทัดฐานใหม่* ในการตีความทางกฎหมาย
ในแง่ของการยอมรับ *คริปโตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย* ออสเตรเลียถือเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ของโลก จากรายงานดัชนี IRCI ปี 2025 พบว่า *ประชากรราว 31% ของประเทศเคยถือครองคริปโต* และกว่า 93% รู้จักสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างน้อยหนึ่งประเภท โดย *บิตคอยน์* ยังคงเป็นคริปโตที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดย 70% ของผู้ที่ถือครองคริปโตมีบิตคอยน์เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุน
ไม่เพียงแต่รายย่อย ตลาดสถาบันก็มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2024 ตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (ASX) ได้อนุมัติให้เปิดซื้อขาย *กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต* ภายใต้ชื่อ VBTC ของบริษัทแวนเอ็ค (VanEck) ซึ่งถือเป็นกองทุนระดมทุนบิตคอยน์แบบสปอตกองแรกในประเทศ และถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการเปิดโอกาสให้สถาบันการเงินเข้าถึงคริปโตภายใต้กรอบกฎหมายและตลาดทุนแบบดั้งเดิม
ระบบนิเวศของคริปโตในออสเตรเลียยังได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มในการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น สววีฟต์เอกซ์ (Swyftx) ที่มีสำนักงานใหญ่ในบริสเบน, คอยน์สปอต (CoinSpot) ที่เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2013, คอยน์เบส ออสเตรเลีย (Coinbase Australia) ซึ่งเป็นสาขาของบริษัทในสหรัฐ และไวต์บิต (WhiteBIT) จากยุโรป โดยเฉพาะ *คอยน์สปอต* ได้รับความนิยมสูงจากนักลงทุนหน้าใหม่ เนื่องจากมีสินทรัพย์ให้เลือกซื้อขายมากกว่า 430 รายการ
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ออสเตรเลียยังมีเครือข่าย *เครื่องถอนเงินอัตโนมัติคริปโต (ATM)* ที่กระจายตัวทั่วประเทศกว่า 1,817 จุด (ณ พฤษภาคม 2025) โดยกระจุกตัวที่เมืองใหญ่หลักอย่าง ซิดนีย์ 631 เครื่อง, เมลเบิร์น 382 เครื่อง, บริสเบน 319 เครื่อง, เพิร์ธ 159 เครื่อง และแอดิเลดอีก 110 เครื่อง ทำให้ง่ายต่อการใช้งานของประชาชนทั่วไป
ในภาพรวม ออสเตรเลียกำลังแสดงบทบาทเชิงรุกทั้งในด้านการยอมรับและการกำกับดูแลคริปโต โดย *การพิจารณาคดีในปี 2025* มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบในระดับโครงสร้าง ทั้งต่อออสเตรเลียเองและอาจขยายไปถึงระบบนิติบัญญัติด้านคริปโตทั่วโลก ความเคลื่อนไหวของกรมสรรพากรออสเตรเลีย และท่าทีต่อการจัดเก็บภาษีคริปโตจะเป็นประเด็นที่ทั่วโลกจับตาในปีหน้าอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น 0