เมื่อเวลา 00:30 น. ของวันที่ 8 ตามเวลามาตรฐานสากล เกิดเหตุผู้ใช้งานบิตคอยน์(BTC) รายหนึ่ง ตั้งค่าธุรกรรมผิดพลาด ส่งผลให้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมมหาศาลถึง 0.75 BTC หรือประมาณ 104,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14.4 ล้านบาท) โดยไม่ตั้งใจ ขณะพยายามใช้งานฟังก์ชัน ‘ค่าธรรมเนียมทดแทน’ หรือ Replace-by-Fee (RBF) เพื่อลดเวลารอของธุรกรรม เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นบทเรียนที่ชี้ให้เห็นว่า ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่การสูญเสียมูลค่ามหาศาลได้
จุดเริ่มต้นของความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้งานรายนี้ตั้งใจจะโอนบิตคอยน์จำนวน 0.48 BTC หรือประมาณ 67,000 ดอลลาร์ (ราว 9.3 ล้านบาท) โดยใช้ฟีเจอร์ RBF ซึ่งเป็นเทคนิคที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานส่งธุรกรรมเดียวกันซ้ำอีกครั้งพร้อมค่าธรรมเนียมใหม่ที่สูงกว่าเพื่อให้ได้รับการยืนยันเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเข้าใจผิดใน *หน่วยค่าธรรมเนียม* จากที่ควรเป็นค่า ‘ซาโตชิต่อขนาดข้อมูล’ (sat/vB) กลับไปใส่ค่ารวมของซาโตชิเข้าไปแทน ทำให้ระบบเข้าใจว่าเขาต้องการจ่ายค่าธรรมเนียมในระดับสูงผิดปกติ และเมื่อธุรกรรมใหม่นี้ถูกส่งเข้าเครือข่าย ระบบจึงหักค่าธรรมเนียมมหาศาลจริงตามคำสั่งดังกล่าว
สำหรับในเครือข่ายบิตคอยน์ นอกจาก RBF แล้ว ยังมีฟีเจอร์ CPFP หรือ Child Pays For Parent ซึ่งเป็นวิธีเร่งการทำธุรกรรมโดยให้ธุรกรรมใหม่มาช่วยดันธุรกรรมเดิมขึ้นมาตามลำดับการจัดการ ทั้งสองวิธีนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกรรมได้รับการยืนยันเร็วขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะในแง่ของ *ค่าธรรมเนียม* ที่ตั้งไว้
ความผิดพลาดในครั้งนี้เกิดจากความเข้าใจผิดด้านเทคนิคและขาดการระมัดระวังขณะใช้งานกระเป๋าบิตคอยน์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ ควรเลือกใช้ *กระเป๋าเงินดิจิทัล* ที่มีชื่อเสียงและผ่านการตรวจสอบ, ตรวจสอบหน่วยค่าธรรมเนียมอย่างถี่ถ้วน, พิจารณาค่าธรรมเนียมที่ระบบแนะนำอัตโนมัติ และควรตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งก่อนกดส่งธุรกรรม โดยเฉพาะเมื่อต้องตั้งค่าธรรมเนียมเอง
*ความคิดเห็น*: เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความเข้าใจเกี่ยวกับ *โครงสร้างธุรกรรม* และฟีเจอร์ในโลกคริปโตซึ่งมีความซับซ้อน การใช้งานโดยไม่รู้ลึกถึงกลไกภายในอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงอย่างการสูญเงินหลักล้านโดยไม่จำเป็น การศึกษาและเตรียมพร้อมก่อนใช้งานจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคของสินทรัพย์ดิจิทัล
ความคิดเห็น 0