ข่าวลือรัฐบาลสหรัฐยึดริปเปิล(XRP) ปะทุอีกครั้ง ทนายชี้ 'ไร้สาระ-ทำไม่ได้'

ข่าวลือเกี่ยวกับการที่รัฐบาลสหรัฐอาจนำคริปโทริปเปิล(XRP) ที่อยู่ภายใต้ระบบเอสโครว์มาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งในหมู่ชุมชนคริปโต อย่างไรก็ตาม ทนายความที่เกี่ยวข้องกับบริษัทริปเปิลออกมาปฏิเสธอย่างเต็มที่ โดยระบุว่าแนวคิดนี้เป็นเพียงการคาดเดาที่ ‘ไร้สาระ’

ความเคลื่อนไหวนี้เริ่มต้นจากบรรดาอินฟลูเอนเซอร์สายคริปโตบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งแสดงความคิดเห็นว่า ‘รัฐบาลสหรัฐมีสิทธิในการยึด XRP จากเอสโครว์ของริปเปิล เพื่อนำไปใช้กับงบประมาณของชาติ’ และบางรายยังพยายามเชื่อมโยงทฤษฎีนี้กับนโยบายการเงินในยุคดิจิทัล อย่างไรก็ตาม บิล มอร์แกน(Bill Morgan) ทนายความของริปเปิลยืนยันผ่านโพสต์ในโซเชียลว่า ‘รัฐบาลไม่มีแผนจะเข้ายึด XRP ในระบบเอสโครว์แต่อย่างใด’

เขายังกล่าวเสริมว่า แม้จะมีการถกเถียงเชิงหลักการว่าการเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ อย่างกรณีอนุมัติบิตคอยน์ ETF แต่สถานการณ์ของ XRP นั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง *เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเทคนิคและกฎหมายที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถเข้าควบคุม XRP ที่ริปเปิลถือไว้ได้ตามอำเภอใจ*

นอกจากนี้ กระแสข่าวยังปะทุแรงขึ้นอีกเมื่อนำไปเชื่อมโยงกับบริการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ‘FedNow’ ของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ซึ่งได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยมีการอ้างว่า *XRP ได้ถูกนำไปใช้จริงในระบบแล้ว* อย่างไรก็ตาม *ข้อเท็จจริงคือ FedNow ใช้เพียงเทคโนโลยีของบริษัทพาร์ตเนอร์อย่าง Volante Technologies ที่มีการเกี่ยวข้องกับริปเปิลเท่านั้น และไม่มีการใช้งาน XRP โดยตรงแต่อย่างใด*

กระแสยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้นหลังเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน ริปเปิลได้ทำการปลดล็อก XRP ปริมาณราว 1 พันล้านเหรียญจากระบบเอสโครว์ คิดเป็นมูลค่าราว 2.2 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 75,000 ล้านบาท ตามมูลค่าตลาดในขณะนั้น ซึ่งยิ่งทำให้ข่าวลือการเข้ายึดครองคริปโตโดยรัฐบาลได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อถูกวางร่วมกับบทสนทนาในวงการเรื่องคริปโตอย่าง โซลานา(SOL) ที่อาจเข้าข่ายสินทรัพย์กลยุทธ์ในอนาคต

แต่อย่างไรก็ดี ยังไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจับตามอง XRP ของริปเปิลเพื่อการยึดครอง หรือเข้าควบคุมโดยตรง แม้ XRP จะมีอิทธิพลมากขึ้นในระบบการโอนเงินข้ามชาติทั่วโลกก็ตาม *ความคิดเห็น: ข่าวลือทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดและความไม่แน่นอนในทิศทางนโยบายคริปโตของรัฐบาล ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่ายในตลาดที่อ่อนไหวต่อข่าวสารเช่นนี้*